แผน10ปีมาม่าหันรุกนอก

มาม่า ประกาศแผน 10 ปี ขอเพิ่มยอดต่างประเทศ 1 หมื่นล้านบาท หลังตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทยอิ่มตัว

นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วง 10 ปีข้างหน้านี้ บริษัทจะมุ่งเน้นการเติบโตในตลาดต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทยเข้าสู่ภาวะอิ่มตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพียงแค่ 4% เท่านั้น

สำหรับปีนี้คาดว่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะมีอัตราการเติบโต 4% จากมูลค่าตลาด 1.3 หมื่นล้านบาท และปีหน้าคาดว่าตลาดรวมจะเติบโต 4-5% เนื่องจากอัตราการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของคนไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 44 ซองต่อคนต่อปีอย่างต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว

“มาม่าวางเป้าหมายอีก 10 ปีข้างหน้านี้ หรือปี 2566 รายได้จากตลาดต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันมีรายได้ 2,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้รวมปีนี้ หลังส่งออกไปกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งบริษัทจะมุ่งทำตลาดในจีน ฮ่องกง อินเดีย”นายพิพัฒ กล่าว

ขณะที่แผนการทำตลาดภายในประเทศนั้น จะเข้าไปทำตลาดโจ๊กสำเร็จรูป เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตเพิ่มขึ้น โดยจะบุกบรรจุภัณฑ์ถ้วย เพราะมีอัตราการเติบโตสูงถึง 20% ล่าสุดได้เปิดตัวมาม่า โจ๊กคัพพลัส 3 รสชาติ ได้แก่ รสหมูหมักผสมสาหร่าย รสไก่อบผสมข้าวโพด และรสปลาแซลมอน

ด้านสภาพตลาดโจ๊กสำเร็จรูป มีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่มีอัตราการเติบโต เป็นผลมาจากตลาดมีความเคลื่อนไหวน้อย โดยมีคนอร์เป็นผู้นำครองส่วนแบ่งการตลาด 80% ซึ่งเป้าหมายของบริษัทตั้งเป้าเข้าไปช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มจาก 10% ในสิ้นปีนี้ เป็น 20-30% ภายในอีก 2 ปีข้างหน้านี้

นายพิพัฒ กล่าวว่า แผนการทำบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูป บริษัทจะเน้นบุกบรรจุภัณฑ์ถ้วย เพราะเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง 20% จากตลาดมูลค่า 3,250 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 25% ส่วนตลาดบะหมี่ชนิดซอง มูลค่า 9,750 ล้านบาท หรือสัดส่วน 75% ติดลบ 3% สำหรับรายได้สิ้นปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 7.5% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 1 หมื่นล้านบาท