"ปัญญา เวชบรรยงรัตน์" ส่งต่อทุกเสาสัญญาณดีแทคสู่ผู้ใช้บริการ

โดย...พรหมเมศร์ ศิริสุขวัฒนานนท์

ระหว่างนั่งเรือออกสู่อ่าวไทยผ่านท่าเรือบางตะบูน จ.เพชรบุรี เพื่อไปดูวาฬบรูด้า กว่า 20 ตัวที่มาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ไม่น่าเชื่อว่าด้วยระยะห่างจากชายฝั่ง 15-20 กิโลเมตร จะมีสัญญาณโทรศัพท์มือถือมาถึง จากคำบอกเล่าของชาวประมง และยังมีโครงการชมวาฬ (Chomwhales) ประเทศไทยที่ใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตมือถือในการบันทึกจุดที่พบวาฬ ทำให้รู้ว่าการสื่อสารโทรคมนาคมมีความสำคัญที่นอกจากช่วยส่งต่อทุกความรู้สึกถึงกันแล้ว ยังช่วยสร้างประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้อีกด้วย

เรื่องราวดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ ปัญญา เวชบรรยงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานปฏิบัติการโครงข่าย บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค ที่ว่า ทุกเสาสัญญาณโครงข่ายล้วนมีความสำคัญ เพราะประสบการณ์ของผู้ใช้เกิดจากเสาทุกต้น ไม่ใช่แค่โครงข่ายทั้งหมดที่ครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศ นั่นแสดงว่า ถ้าดีแทคสามารถทำให้โครงข่ายทุกจุดส่งถึงมือผู้ใช้บริการได้อย่างมีคุณภาพ เท่ากับว่าดีแทคประสบความสำเร็จในการให้บริการ

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ปัญญามีประสบการณ์ในงานด้านไอทีมาโดยตลอด แต่แนวคิดที่แตกต่าง คือ เขาไม่ได้มองว่าไอทีคืองานหลังบ้าน หากแต่ไอทีคืองานที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับธุรกิจและผู้ใช้บริการ เพราะพนักงานทุกคนทุกแผนกต้องใช้ไอทีเพื่อเข้าถึงกระบวนการทำงานทั้งหมด ขณะที่ผู้ใช้บริการก็ต้องใช้ไอทีเพื่อเลือกหรือเปลี่ยนแพ็กเกจ ชำระค่าบริการ ใช้บริการเสริมต่างๆ ดังนั้นถ้าระบบไอทีเข้าใจผู้ใช้ ทุกอย่างจะออกมาสมบูรณ์ได้

เมื่อได้รับแต่งตั้งให้มาดูแลงานด้านโครงข่าย ปัญญาจึงใช้แนวคิดเดียวกันมาต่อยอด วางแผนให้งานโครงข่ายกลายเป็นเรื่องของการเชื่อมต่อทั้งธุรกิจและผู้ใช้บริการ นั่นแสดงว่า วิศวกรโครงข่ายของดีแทคทุกคน คือหัวใจสำคัญที่จะทำงานเชื่อมให้โครงข่ายมีประสิทธิภาพที่สุด

“คุณประเทศ ตันกุรานันท์ ผู้บริหารโครงข่ายคนเดิมทำหน้าที่ไว้อย่างดี เป็นประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ เพราะสามารถเปลี่ยนโครงข่ายใหม่กว่า 1 หมื่นเสาสัญญาณได้ ภาระงานต่อไปคือต้องต่อยอดให้ทุกอย่างที่วางไว้เป็นอย่างดีแล้ว ส่งไปถึงผู้ใช้งานให้ดีที่สุด” ปัญญา กล่าว

จุดแข็งของดีแทค คือ การมีโครงข่ายไตรเน็ต นั่นคือ 3 คลื่นความถี่ 2100, 850 และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ เมื่อจะใช้บริการเสียงหรือบริการอินเทอร์เน็ต ก็มีคลื่นความถี่มากเพียงพอรองรับให้บริการลูกค้าเป็นล้านรายได้ ขณะที่การทำงานของวิศวกรต้องมีความเข้าใจการใช้งานด้วย ว่าในแต่ละพื้นที่ต้องการใช้งานบริการเสียงหรือบริการอินเทอร์เน็ตมากกว่ากัน นั่นหมายความว่า การทำงานต้องลงพื้นที่ไปสัมผัสประสบการณ์ใช้งานจริง นำไปสู่ 4 กลยุทธ์หลักที่จะเป็นหลักการทำงานด้านโครงข่ายในปีต่อไปของดีแทค

ประการแรก ต้องออกแบบดีไซน์โครงข่ายให้ดีทั้งประเทศ และใส่ใจรายละเอียดปลีกย่อยไปพร้อมๆ กัน ประการที่สอง ต้องดูแลโครงข่ายวันนี้และในอนาคต ไม่ใช่แค่การลงทุน 3จี เท่านั้น แต่ดีแทครู้ว่า 2จี ยังมีความสำคัญอยู่มาก บริการพื้นฐานของผู้ใช้ยังเป็นบริการเสียงบน 2จี ดีแทคจึงเปลี่ยนโครงข่ายใหม่ทั้งหมด ขณะที่ปี 2557 จะเห็นบริการ 4จี จากดีแทคแน่นอนเช่นกัน

ประการที่สาม วิศวกรโครงข่ายดีแทคพร้อมจะรับฟังผู้ใช้บริการเสมอ เพื่อปรับปรุงและพัฒนางานให้ตรงกับความต้องการ รับประกันว่าจุดไหนที่ยังบกพร่องอยู่จะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้ายังไม่ดีขึ้นจะต้องมีคำชี้แจงจากดีแทคส่งไปถึงผู้ใช้บริการ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการดูแลเอาใจใส่อย่างจริงจัง รวมถึงการผสานการทำงานกับทีมงานภายในดีแทคเพื่อให้งานขาย งานการตลาด งานบริการ ทำออกมาได้ดีที่สุด และประการที่สี่ คือ การเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้โครงข่ายของดีแทคพร้อมให้บริการผู้ใช้อยู่เสมอ

“เหตุการณ์น้ำท่วมในปีนี้สะท้อนให้เห็นความตั้งใจจริงเป็นอย่างดี ดีแทคไม่มีโครงข่ายใดที่มีปัญหาจากน้ำท่วมเลย ต้องยกความดีความชอบทั้งหมดให้กับพนักงานโครงข่ายทุกคนที่ช่วยเหลือดูแลกันตลอดเวลา จนทุกอย่างผ่านไปด้วยดี” ปัญญา กล่าว

สำหรับมุมมองต่ออนาคตด้านเทคโนโลยีโครงข่ายโทรคมนาคม เขามองว่าต้องวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบตั้งแต่หน่วยงานกำกับดูแลในการจัดสรรคลื่นความถี่ ผู้ให้บริการที่ต้องเป็นพันธมิตรกันเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนที่ไม่จำเป็น และแข่งขันกันทางการตลาดและให้บริการ เนื่องจากแนวโน้มที่เห็นชัด คือ การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ที่จะส่งให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาค จะมีทั้งคนและธุรกิจวิ่งผ่านประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารคือหัวใจสำคัญประการหนึ่ง

ประเด็นดังกล่าวไม่ต้องรอให้ถึงปี 2558 เพราะแค่ปัจจุบันที่พม่าเริ่มเปิดประเทศแล้ว ทำให้เศรษฐกิจและสังคมในหลายจังหวัดฟากตะวันตกของประเทศคึกคักขึ้นมา และการติดต่อสื่อสารก็เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอันดับต้นๆ ทันที และจะส่งให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

การเข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโสสายงานปฏิบัติการโครงข่าย ปัญญาถือเป็นความท้าทาย และเห็นชัดว่าดีแทคเต็มไปด้วยโอกาสที่ต้องวางแผนอย่างถูกต้อง มีการลงทุน พัฒนาปรับปรุงตามกลยุทธ์ของดีแทคที่ว่า Internet for All โดยอาวุธลับ คือ คนของดีแทคที่ทำทุกอย่างด้วยใจด้วยพลังของคนดีแทคแท้ๆ ที่กลายเป็นวัฒนธรรมองค์กร และหาจากบริษัทอื่นได้ยาก