เรดบูลรุกชูกำลังอัดก๊าซเอเชีย

เรดบูล จ่อลุยเครื่องดื่มชูกำลังอัดก๊าซ บุกอาเซียนปี 2558 ผนึกเบียร์สิงห์ทุ่ม 100 ล้าน จัดแข่งรถระดับโลกปีที่ 2

นายไมเคิล เดอ ซานติเอซเตบาน ตัวแทนนายเฉลิม อยู่วิทยา จากเรดบูล ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังเรดบูล เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแผนนำเครื่องดื่มชูกำลังเรดบูลที่มีส่วนผสมคาร์บอเนต หรืออัดก๊าซ เปิดตลาดอาเซียนในปี 2558 เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีอัตราการเติบโตอีกมาก

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเรดบูลขยายตลาดเครื่องดื่มชูกำลังทั้งอัดก๊าซและไม่อัดก๊าซไปทั่วโลก ทั้งในยุโรป อเมริกา และเอเชีย แต่เครื่องดื่มชูกำลังอัดก๊าซ ยังไม่ได้ทำตลาดในเอเชียในเชิงรุก และในอาเซียนถือว่าเป็นตลาดใหม่ เพราะเป็นเครื่องดื่มระดับพรีเมี่ยม ในปีนี้บริษัทได้นำเข้าเรดบูลอัดก๊าซจากออสเตรเลีย เข้ามาทำตลาดในไทยเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับการเข้ามาทำตลาดเรดบูลอัดก๊าซขนาด 250 มล. ราคากระป๋องละ 60 บาท เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวต่างประเทศ แตกต่างจากเครื่องดื่มชูกำลังในไทยที่จำหน่ายราคาขวดหรือกระป๋องละ 10-12 บาท เจาะกลุ่มผู้ใช้แรงงาน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนที่จะนำเข้าเรดบูลประเภทอื่นๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม จากปัจจุบันมีทั้งเครื่องดื่มชูกำลังปราศจากน้ำตาล และเรดบูล ช็อต

ขณะที่กลยุทธ์การสร้างแบรนด์เรดบูล และการสร้างการรับรู้ในวงกว้างของตลาดไทยและอาเซียน บริษัทจับมือร่วมกับบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จัดการแข่งขันรถยนต์ระดับโลก “เรดบูล สิงห์ เรซออฟแชมเปี้ยนส์ ไทยแลนด์ 2013” ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย

“ภายในงานจะจัดกิจกรรมต่างๆ และบูธเรดบูลอัดก๊าซ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดการทดลองดื่ม และเป็นการสร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจากการทำตลาดมา 7 เดือน ยอดขายมีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ” นายซานติเอซเตบาน กล่าว

นายวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี ผู้อำนวยการกิจกรรมการตลาดและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์สิงห์ กล่าวว่า นโยบายของบริษัทต้องการสร้างแบรนด์สิงห์ก้าวสู่ระดับโกลบอล หรือเป็นยี่ห้อระดับโลกในอีก 4-5 ปีข้างหน้านี้ การใช้สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งในการสร้างแบรนด์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำหรับการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก ส่วนการแข่งขันปีที่แล้วได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี และช่วยให้กีฬามอเตอร์สปอร์ตเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ยังมีนักขับรถระดับโลก ร่วมชิงชัยเช่น มิชาเอล ชูมักเกอร์ อดีตแชมป์โลกเอฟวัน 7 สมัย  ขณะที่นักแข่งทีมไทยมี 4 คน จากทีมสิงห์ และทีมโตโยต้า