แท็กซี่ที่รัก

หลายๆ คนที่ใช้บริการ “แท็กซี่” ในบ้านเรา คงปวดตับไม่น้อย เพราะระยะหลังๆ มานี้ คนรอบข้างบ่นอุบกับสารพัดปัญหาที่พบเจอคล้ายกันโดยไม่ได้นัดหมาย

ปัญหาหลักๆ ที่พบ คือ แท็กซี่ไม่รับผู้โดยสาร โบกเรียกคันแล้วคันเล่าจนเมื่อยกว่าจะได้ไป โดยเฉพาะในเขตเมืองแท็กซี่ก็ยิ่ง “เลือกได้” บางคันไม่เปิดไฟว่างแต่แย้มกระจกมาถาม บางคันตอบปฏิเสธแบบชวนงงว่า “ไม่ผ่านทางนั้น” แถมมีพวกพาไปไม่ถึงที่หมาย ยิ่งเป็นช่วงฝนตกแท็กซี่ก็ยิ่งหายาก ทั้งที่มีมากกว่าแสนคันในกรุงเทพฯ

เมื่อพยายามมองในมุมของคนขับแท็กซี่ มีหลายเหตุผลที่เข้าใจได้ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนที่ต้องแบกรับเพิ่มขึ้น ทั้งค่าเช่า ค่าแก๊ส ค่าครองชีพ บวกกับปัญหารถติด และคู่แข่งที่มากขึ้น ทำให้ต้องคิดเยอะ ไม่อย่างนั้นขับรถทั้งวันก็อาจไม่พอกิน

เพียงแต่น่าจะร่วมกันหาทางออกแบบวินวิน เหมือนกับกรณีของ “มาเลเซีย” ที่เริ่มมีทางเลือกใหม่ๆ แก้ปัญหาไม่ลงตัวระหว่างผู้โดยสารและคนขับแท็กซี่ ซึ่งเป็นปัญหาคลาสสิกในภูมิภาคนี้

ก่อนหน้านี้ คนในมาเลเซียก็เผชิญกับปัญหาน่าปวดหัวแบบนี้เหมือนกัน ถึงขนาดที่แท็กซี่มาเลย์เคยถูกจัดอันดับ “ชื่อเสีย” มากสุดในโลก จาก “ลอนดอน แคบส์” ผู้ให้บริการแท็กซี่ในอังกฤษ โดยเฉพาะในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ทั้งบริการย่ำแย่ เรียกค่าโดยสารแพงกว่าที่ปรากฏบนมิเตอร์ ไม่นับรวมพฤติกรรมต่างๆ ที่ไม่สุภาพ

แต่ล่าสุดมีนักธุรกิจหัวใสเปิดตัวแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน สำหรับใช้บริการแท็กซี่ “มายแท็กซี่” (MyTeksi) ที่เอื้อประโยชน์ให้ทั้งผู้โดยสารและคนขับ

เพราะบริษัทจะคัดเลือกแท็กซี่ที่ได้มาตรฐานเข้าร่วมเป็นเครือข่าย สภาพรถที่ต้องสะอาด และมีกฎทองว่าต้องคิดค่าโดยสารตามมิเตอร์เท่านั้น ขณะเดียวกันผู้โดยสารก็สามารถให้คะแนนแท็กซี่ที่ตัวเองใช้บริการได้

ในฟากผู้โดยสาร ก็จะได้รับบริการที่รวดเร็วขึ้น คนขับสุภาพ เป็นมิตร และได้รับบริการที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ ส่วนฟากแท็กซี่ที่เข้าร่วมโครงการก็จะมีงานเข้าตลอด ไม่ต้องนั่งตบยุงรอ แท็กซี่คันไหนอยู่ใกล้จุดที่ผู้โดยสารต้องการก็รับงานไป ไม่ต้องตระเวนขับหาลูกค้าแบบเผาน้ำมันทิ้งเปล่าๆ ทำให้คนขับแท็กซี่มีเงินเหลือกลับบ้านมากขึ้น

แอพพลิเคชันมายแท็กซี่เปิดตัวครั้งแรกในปีที่แล้ว แต่ยังให้บริการในบางพื้นที่ของมาเลเซีย รวมถึงเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ ขณะนี้มีเครือข่ายรถแท็กซี่ในกัวลาลัมเปอร์เข้าร่วมแล้วกว่า 2,000 คัน จากรถแท็กซี่ทั้งหมดกว่า 4 หมื่นคัน จำนวนผู้ใช้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผู้โหลดแอพพลิเคชันแล้วหลายหมื่นคน

ความแรงของแอพนี้ได้อานิสงส์จากการที่ผู้คนใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น นอกจากนี้ มายแท็กซี่ยังใช้ระบบจีพีเอสในการตรวจจับพิกัดของลูกค้าที่ใช้แอพ ซึ่งเชื่อมต่อกับแผนที่ระบุพิกัดของแท็กซี่ในละแวกใกล้เคียง เมื่อผู้โดยสารคลิกเลือกใช้บริการ แท็กซี่ก็มีโอกาสรับงาน โดยได้ข้อมูลที่อยู่ของลูกค้าและจุดหมายที่ต้องการไป

ไม่เพียงแต่ในมาเลเซีย ตอนนี้มายแท็กซี่ขยับขยายไปให้บริการใน “ฟิลิปปินส์” แล้ว โดยใช้ชื่อว่า “แกรบแท็กซี่” (GrabTaxi) และบริษัทหวังว่าจะโดนใจชาวตากาล็อก เพราะการหาแท็กซี่ในช่วงเวลาเร่งด่วนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แถมเมื่อเจอแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะได้ไป หากคนขับเห็นว่าจุดหมายปลายทางไกลเกินไป บางคันก็อาจต้องจ่ายมากกว่ามิเตอร์

นอกจากนี้ มายแท็กซี่ยังมีเป้าหมายจะให้บริการในประเทศอาเซียนอื่นๆ ด้วย แต่ยังไม่เปิดเผยว่าหมายตาที่ไหนไว้บ้าง