'โยฟุ สแนค' ธุรกิจของผู้ไม่ยอมแพ้
ในเส้นทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ย่อมต้องเผชิญปัญหา อุปสรรคมากบ้าง น้อยบ้างไม่ต่างกัน แต่ผู้ที่ยืนหยัดจนประสบความสำเร็จได้
โดย...เบ็ญจวรรณ รัตนวิจิตร
ในเส้นทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ย่อมต้องเผชิญปัญหา อุปสรรคมากบ้าง น้อยบ้างไม่ต่างกัน แต่ผู้ที่ยืนหยัดจนประสบความสำเร็จได้ ก็คือผู้ที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคเหล่านั้น เช่นเดียวกับสองนักธุรกิจรุ่นใหม่ ผู้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ “โยฟุ สแนค”
วิศรุต สุคนธ์พงเผ่า และ ศิระ เพื่อนชอบ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (CoCEO) บริษัท โกจิโซ ดิสทริบิวชั่น เจ้าของผลิตภัณฑ์ “โยฟุ ชิพส์” เต้าหู้กรอบเพื่อสุขภาพ เล่าเส้นทางเถ้าแก่น้อยของเขา แม้จะไม่เหมือนเถ้าแก่น้อยพันล้าน แต่ก็ใกล้เคียง
สองหนุ่ม เพิ่งเริ่มเส้นทางธุรกิจของตัวเองเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากจบการศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้แยกย้ายกันไปทำงานประจำคนละ 1 ปี ก่อนกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อปลุกปั้นธุรกิจด้วยกัน เพราะอยากเป็นนายตัวเอง และสร้างความท้าทายให้กับชีวิต
“ที่เลือกทำธุรกิจอาหาร เพราะยังไงคนก็ต้องกิน และผมก็ชอบกิน ของกินขายง่าย และรู้สึกดีที่ได้ทำธุรกิจให้คนกินแล้วมีความสุข สโลแกนของเรา คือ แฮปปี้เนส เรดดี้ ทู เสิร์ฟ หรือสร้างรอยยิ้มด้วยอาหาร” วิศรุต กล่าว
โกจิโซฯ เลือกทำธุรกิจสแน็ก หรือขนมขบเคี้ยว ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท และยังเติบโต ต่อเนื่อง จึงคิดค้นสแน็ก เพื่อสุขภาพจากเต้าหู้กรอบ ที่ให้คุณค่าอาหารแตกต่างจากขนมขบเคี้ยวที่มีอยู่ในตลาด ที่ส่วนใหญ่จะเป็นขนมขบเคี้ยวที่ผลิตจากแป้งเป็นหลัก
ช่วงเริ่มต้น วิศรุตได้รับคำคัดค้านจากคู่หู เพราะมองว่าเต้าหู้มีคนกินเฉพาะกลุ่ม และตัวศิระเองเป็นคนไม่ชอบกินเต้าหู้ แต่ในฐานะที่เขาชอบกินเต้าหู้และคิดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่เคยมีในตลาด จึงคิดค้นและทดลองสูตรในการผลิตเต้าหู้กรอบต่อไป จนได้สูตรที่คิดว่าใช่ แล้วให้คู่หูลองชิมอีกครั้ง ปรากฏว่าคนไม่กินเต้าหู้กินได้ เขาจึงมั่นใจมากขึ้นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด
หลังจากลองผิดลองถูกด้วยการผลิตวันละ 5 ซอง 10 ซอง เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 200300 ซอง ให้พ่อแม่พี่น้องและเพื่อนชิมจนมั่นใจแล้ว จึงนำไปวางจำหน่ายในร้านค้าต่างๆ เริ่มด้วยร้านขายสินค้าเพื่อสุขภาพ ขณะนี้ โยฟุ ชิพส์ มีจำหน่ายที่ ฟู้ดแลนด์ ซูเปอร์มาร์เก็ต วิลล่า มาร์เก็ต ตั้งฮั่วเส็ง ซูเปอร์มาร์เก็ตยูเอฟเอ็ม ฟูจิ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านดีนแอนด์เดลูก้า และฮาโกะ ทาวน์ เป็นต้น และวางแผนเข้าเซเว่นอีเลฟเว่นในปี 2557
วิศรุต กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นจดสิทธิบัตรกระบวนการผลิตเต้าหู้กรอบต่อกระทรวงพาณิชย์ เพื่อคุ้มครองการผลิตที่ไม่เหมือนใคร และเชื่อว่า จะทำเลียนแบบได้ยาก เพราะกระบวนการผลิต เต้าหู้กรอบที่ได้มาจากทั้งข้อมูลในเชิงวิชาการ การสอบถามจากแม่ค้าร้านเต้าหู้ การลองผิดลองถูกของตัวเอง จนออกมาเป็นเต้าหู้กรอบ โยฟุ ชิพส์ ที่วางจำหน่าย อยู่ในขณะนี้
สำหรับเป้าหมายในระยะใกล้ คือ ภายในปี 2557 บริษัทคาดว่าจะมียอดขายผลิตภัณฑ์โยฟุ ชิพส์ รวม 3 รสชาติ ได้แก่ รสสไปซี่ ปาปริก้า รสสาหร่าย และรสงา รวม 100 ล้านบาท และในอนาคตยังมีแผนพัฒนาสินค้าในกลุ่มอาหารออกมาอย่างต่อเนื่องตามความหมายของชื่อบริษัท โกจิโซ คือ อาหารที่อร่อย ที่พร้อมเสิร์ฟกับผู้บริโภคทั่วประเทศ
ขณะนี้ บริษัท โกจิโซฯ อยู่ระหว่างการเขียนแผนธุรกิจเพื่อขอกู้เงินจากธนาคารมาลงทุนขยายโรงงาน ในเฟสที่ 2 หลังจากเบื้องต้นลงทุนไป 2 ล้านบาท จากเงินเก็บของคู่หูทั้งสองคน และนายทุนผู้ถือหุ้นอีกราย แน่นอนว่าเป้าหมายของคนทั้งคู่ไม่หยุดอยู่แค่ในประเทศ แต่มีเป้าหมายผลิตเพื่อการส่งออกในอนาคตด้วย
“บนเส้นทางของเถ้าแก่น้อย ผมเชื่อว่าทุกคนต้องเจอกับปัญหา อุปสรรคต่างๆ นานา ต้องสู้กับคำปรามาส คำสบประมาท ความไม่เชื่อในตัวเอง แต่ไม่ว่าใครจะพูดอะไร ถ้าเรามุ่งมั่นเดินหน้าต่อไปอย่างไม่ยอมแพ้ เราก็จะสามารถก้าวข้ามปัญหา อุปสรรคนั้นไปได้” วิศรุต กล่าวทิ้งท้าย


