‘แมลงกระป๋อง’ขนมแห่งอนาคต

ก่อนหน้านี้สหประชาชาติ (ยูเอ็น) คาดการณ์ว่า เมื่อถึงปี 2573 จำนวนประชากรโลกจะดีดตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไปสู่ 9,000 ล้านคน จึงจะส่งผลให้มีประชากรจำนวนมากต้องเผชิญกับ “ภาวะวิกฤตขาดแคลนอาหาร” ดังนั้นในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) จึงออกรายงานชี้ชัดว่า “การกินแมลง” จะสามารถช่วยให้ประชากรโลกหลุดพ้นจากวิกฤตอาหาร เพราะเป็นแหล่งอาหารที่มีไขมันต่ำ โปรตีนสูง ไฟเบอร์สูง และยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุหลายชนิด

ด้วยเหตุนี้ เพื่อเป็นการตั้งรับล่วงหน้ากับภาวะขาดแคลนอาหารที่โลกจะต้องเผชิญ “ติ้งกีก” เว็บไซต์ขายของซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสินค้าแปลกแหวกแนว จึงได้นำเสนอสินค้าใหม่ล่าสุด “แมลงบรรจุกระป๋องสำเร็จรูป” ออกนำวางขายในท้องตลาดแล้ว ซึ่งผู้ผลิตย้ำชัดเจนว่าแมลงชนิดต่างๆ ที่นำมาส่งถึงมือผู้บริโภคนั้นไม่มีการตกแต่งสี รสชาติ รวมทั้งใช้วัตถุกันเสีย

สตีฟ ซิมเมอร์แมน จากติ้งกีก ระบุว่า มีประชากรในโลกที่กินแมลงเป็นอาหาร โดยมีคนทั่วโลกถึง 2 ล้านคนที่นิยมแมลงเป็นอาหารเสริม และในภูมิภาคเอเชีย การกินแมลงก็เป็นที่นิยมเช่นกัน

สำหรับผลิตภัณฑ์แมลงกระป๋องของผู้ผลิตสัญชาติอังกฤษนี้ มีแมลงหลากหลายชนิดให้ผู้บริโภคเลือกซื้อ ยกตัวอย่างเช่น จิ้งหรีด กุดจี่ แมงป่อง ตั๊กแตน หนอน และที่ดูจะพิเศษกว่าเป็นเพียงอาหารกระป๋องแนวใหม่ก็คือ อาหารเหล่านี้จะมีรสชาติต่างๆ ให้เลือกซื้อ ซึ่งแต่ละรสชาติก็ได้ปรุงรสให้ถูกปากชาวตะวันตกด้วย อย่างเช่น แมงป่องรสโนริสาหร่าย กุดจี่รสซาวครีมและหัวหอม กุดจี่รสเบคอนและชีส จิ้งหรีดรสวาซาบิ หนอนรสบาร์บีคิว มดรสเค็ม เป็นต้น

“แทนที่คุณจะกินมันฝรั่งและขนมขบเคี้ยวรสชาติต่างๆ คุณก็สามารถกินตั๊กแตนรสเบคอนและชีส หรือกินหนอนรสบาร์บีคิวแทนได้” ซิมเมอร์แมน กล่าว พร้อมระบุว่าผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการตอบรับจากประชาชนเมืองผู้ดีไม่น้อยทีเดียว

ทั้งนี้ ราคาขายแมลงกระป๋องของติ้งกีกปริมาณ 50 กรัม อยู่ที่ 25 เหรียญสหรัฐต่อกระป๋อง (ราว 750 บาท)

ธุรกิจขายแมลงกระป๋องของติ้งกีกอาจจะเป็นเพียงก้าวแรกของการเริ่มต้น ทว่าเมื่อถึงเวลาที่ประชากรหันมาบริโภคแมลงตามสภาวะของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ก็น่าจะทำให้อาหารของโลกแห่งอนาคตนี้ขายดิบขายดีอย่างแน่นอน