การทุจริตฮั้วประมูล
เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2556 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาคดีทุจริตซื้อรถและเรือดับเพลิงกรุงเทพมหานคร การกระทำดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 และมาตรา 13 โดยให้จำคุกนายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. โดยไม่รอลงอาญา แต่ทั้งสองคนหลบหนี ไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลอาญาจึงได้ออกหมายจับปรับนายประกัน 2 ล้านบาท ซึ่งหลายท่านคงทราบแล้ว
เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2556 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาคดีทุจริตซื้อรถและเรือดับเพลิงกรุงเทพมหานคร การกระทำดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 และมาตรา 13 โดยให้จำคุกนายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. โดยไม่รอลงอาญา แต่ทั้งสองคนหลบหนี ไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลอาญาจึงได้ออกหมายจับปรับนายประกัน 2 ล้านบาท ซึ่งหลายท่านคงทราบแล้ว
ทนายคลายทุกข์ได้ติดตามข่าวคดีนี้มาโดยตลอดและเห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ได้ตัดสินจำคุกคนที่ทุจริตคดโกงชาติบ้านเมือง และขอนำเสนอเกี่ยวกับการทุจริตคดโกงชาติบ้านเมืองเป็นรายประเด็น ดังนี้
เหตุที่รัฐมนตรีหรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ กล้าโกงชาติบ้านเมือง สาเหตุมาจากมีอำนาจเบ็ดเสร็จ
กล่าวคือ คดโกงตั้งแต่ออกนโยบาย ล็อกสเปก เพื่อให้พรรคพวกตัวเองหรือตัวแทนของตนเอง เข้ามาประมูลงานหรือเสนอราคาต่อหน่วยงานหรือกระทรวงที่นักการเมืองมีอำนาจกำกับดูแล เท่ากับว่าคดโกงตั้งแต่ออกนโยบาย ล็อกสเปก จัดหาคนประมูลงาน คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างก็เป็นลูกน้องของตนเอง เรียกว่า “ชงเองกินเอง” โดยคำนึงถึงความต้องการของผู้ขายสินค้ามากกว่าความจำเป็นหรือประโยชน์ของทางราชการหรือประโยชน์สาธารณะหรือบางคน
เรียกว่า เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม เมื่อมีอำนาจเบ็ดเสร็จจึงทำให้นักการเมืองและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กล้าคดโกง
ความยากในการตรวจสอบและจับผิดนักการเมือง คดีคดโกงชาติโดยนักการเมืองร่วมมือกับข้าราชการ ทำเป็นขบวนการ จึงไม่มีพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล พยานวัตถุ พยานเอกสาร หรือพยานเชี่ยวชาญ จึงขาดพยานหลักฐานที่จะชี้มูลความผิด แค่จะรวบรวมพยานหลักฐานให้มีพอสมควรเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาก็ยากแล้ว
คดีนี้จึงต้องชื่นชม ป.ป.ช.ที่ใจถึงพึ่งได้ ไม่เกรงกลัวอิทธิพล พรรคการเมืองฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล ประชาชนยังพึ่ง ป.ป.ช.ได้อยู่ เพราะถ้าดูรายชื่อคณะกรรมการเป็นปรมาจารย์ด้านกฎหมายทั้งนั้น อายุก็มากแล้ว เกียรติยศชื่อเสียงก็มาก โอกาสที่นักการเมืองจะไปจ่ายเงินใต้โต๊ะหรือล้มคดีก็ยาก ความเข้มแข็งขององค์กรตรวจสอบอย่าง ป.ป.ช. ทำให้เอานักการเมืองและข้าราชการที่ทุจริตมาลงโทษในคดีนี้ได้
การบังคับคดีทางอาญาและทางแพ่งหลังจากศาลจำคุกคดีทุจริตรถและเรือดับเพลิงจะยึดทรัพย์จำเลยได้หรือไม่ เป็นหน้าที่ของ ปปง.และทุกหน่วยงาน รวมทั้งพี่น้องประชาชนต้องช่วยกันตรวจสอบสืบหาทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองคน เพื่อยึดและอายัดทรัพย์มาชำระหนี้ให้กับชาติบ้านเมือง เพราะเสียหายไปเกือบ 7,000 ล้านบาท ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ปปง.จะมีน้ำยาแค่ไหน ภาคประชาชนต้องคอยติดตามนะครับว่าเอาจริงไหม
ส่วนตัวผมอยากให้ ปปง.จัดหนักจัดเต็มไปเลยครับ การสืบหาทรัพย์สินของนายประชา ซึ่งร่ำรวยขนาดนี้ ที่มาของทรัพย์สินคงหาไม่ยาก ขายบ้าน ขายที่ดิน โอนหุ้นหนี ก็ดำเนินคดีฟอกเงินได้ โกงเจ้าหนี้ก็ดำเนินคดีได้ เพิกถอนการฉ้อฉลก็ดำเนินคดีได้ หลักฐานก็ไม่น่าหายากกรณีนายประชา เพราะเขาทั้งร่ำรวยทั้งดัง
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตฮั้วประมูล
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 83 ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542
มาตรา 12 เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใดๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ มีความผิดฐานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 13 ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือกรรมการหรืออนุกรรมการในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมิใช่เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใด กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใดๆ ต่อเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจหรือหน้าที่ในการอนุมัติ การพิจารณา หรือการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาเพื่อจูงใจหรือทำให้จำยอมต้องยอมรับการเสนอราคาที่มีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำความผิดฐานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนสี่หมื่นบาทถึงสี่แสนบาท
สุดท้ายนี้หวังว่า ตำรวจจะไปหิ้วนายประชากลับมารับโทษตามกฎหมายได้ และหวังว่า ป.ป.ช.จะยึดทรัพย์นายประชามาคืนหลวงได้นะครับ ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ


