posttoday

กระเป๋าใยสับปะรส สวย เก๋ไม่ซ้ำใคร

13 กันยายน 2556

ต้องยอมรับในภูมิปัญญาชาวบ้านของคนไทยจริงๆ ที่สามารถนำเอาเส้นใยจากใบสับปะรดมาแปรรูป

โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล

ต้องยอมรับในภูมิปัญญาชาวบ้านของคนไทยจริงๆ ที่สามารถนำเอาเส้นใยจากใบสับปะรดมาแปรรูป บวกเพิ่มเสริมกับฝีมือและความคิดสร้างสรรค์จนสุดท้ายออกมาเป็นกระเป๋าใยสับปะรดที่เป็นงานแฮนด์เมด เพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่บ้านจนกลายเป็นสินค้าของดี ขึ้นชื่อของ จ.สระบุรี

ปรินทร จี้เพชร หรือพี่สุ หนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบงานฝีมือทุกชนิด มีเวลาว่างเป็นไม่ได้ต้องหยิบจับของใกล้ตัวมาประดิดประดอยเป็นข้าวของเครื่องใช้ เครื่องประดับไม่ซ้ำใคร กระทั่งไปเห็นใบสับปะรดที่ถูกกองทิ้งไว้อย่างไร้ค่า จึงคิดนำเส้นใยมาทำเป็นกระเป๋า เนื่องจากเส้นใยจากใบสับปะรดมีความเหนียวมาก ทำให้ได้ชิ้นงานที่สวยแปลกตา ที่สำคัญยังมีความทนทานอีกด้วย

“เคยทำมาหมดพวกงานฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าผ้า กระเป๋าสาน หากคิดจะทำขายก็คงเป็นไปได้ยากเพราะมีคนทำกันเยอะ จนไปเห็นใบสับปะรดถูกกองทิ้งไว้ในตลาดจำนวนมาก จึงคิดว่าหากนำใยพืชชนิดนี้มาทำเป็นกระเป๋าคงจะแปลกดีเพราะยังไม่มีใครทำ จึงลองนำใบสับปะรดมาตำและตีให้เกิดเป็นเส้นใย สุดท้ายก็ได้ใยสับปะรดออกมาที่มีความเหนียวมาก ส่วนกรรมวิธีการผลิตไม่แตกต่างจากการทำกระดาษสานัก” ปรินทร กล่าว

ปรินทร เล่าให้ฟังต่อว่า ระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาแห่งการลองผิดลองถูก หมดเงินไปหลายหมื่นบาท เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ยังไม่มีใครทำ แต่ก็ใช้ความพยายาม โดยดึงกรรมวิธีการทำกระดาษสามาประยุกต์ใช้พร้อมกับลงสีตามต้องการ จากเดิมสีที่ได้จากใยใบสับปะรดจะเป็นสีน้ำตาลเท่านั้น

กระเป๋าถือเป็นผลงานชิ้นแรกที่ปรินทรทำออกมาได้สำเร็จ ที่สำคัญไม่ใช่เป็นกระเป๋าจากใยพืชธรรมดาทั่วไป แต่มีการนำเศษผ้าลูกไม้ กระดุม งานหนัง และงานผ้ามาประยุกต์เข้าด้วยกันเพื่อความดูดีและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยภายในกระเป๋าก็บุด้วยผ้าพร้อมตัดเย็บเป็นช่องขนาดเล็กเพิ่มประโยชน์ในการใช้สอยได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น ช่องใส่โทรศัพท์มือถือ ใส่เศษเหรียญ เพื่อให้ตรงความต้องการใช้งานของลูกค้า ซึ่งชิ้นงานที่ออกมาก็ไม่ซ้ำใคร

กระเป๋าใยพืชของกลุ่มมี 3 ขนาด คือ เล็ก กลาง และใหญ่ เพราะต้องนำใยพืชมาขึ้นรูปในบล็อกตามขนาดที่ออกแบบไว้ ทำให้ขนาดของกระเป๋ามีไม่มากนัก แต่จะใช้การตกแต่งด้วยงานฝืมือให้เกิดความแตกต่างและดูดีขึ้น ซึ่งธุรกิจนี้เป็นการรวมกลุ่มของชาวบ้านใน จ.สระบุรี ที่มารวมตัวกันได้ 3 ปีแล้ว แต่สมาชิกก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ เพราะเป็นงานละเอียดต้องใช้ฝีมือ โดยเฉพาะขั้นตอนการเย็บจะใช้มือล้วนๆ ทำให้สามารถผลิตกระเป๋าใยพืช (ยังไม่ตกแต่ง) ได้เพียงวันละ 6 ใบ ขณะที่ผลิตเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย

อย่างไรก็ดี ในอนาคตมีแผนที่จะต่อยอดผลิตภัณฑ์เป็นหมวกและโคมไฟใยพืช เพื่อสร้างความแตกต่างและหลากหลายให้ผลิตภัณฑ์ หากสนใจติดต่อได้ที่กลุ่มอาชีพโอท็อป ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรีโทร.080-802-5934

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"