posttoday

'บัวผัด แฟคทอรี่' เพิ่มมูลค่าให้เศษผ้า

08 กันยายน 2556

ผ้าทอมือจากผ้าพื้นเมือง นับเป็นด้วยมนต์เสน่ห์แห่งล้านนาที่ทำให้หลายคนชื่นชอบ แต่วันนี้ “บัวผัด แฟคทอรี่” ทำให้งานทอมือจาก “เศษผ้าพื้นเมือง” ดูแปลกตาไป

โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์

ผ้าทอมือจากผ้าพื้นเมือง นับเป็นด้วยมนต์เสน่ห์แห่งล้านนาที่ทำให้หลายคนชื่นชอบ แต่วันนี้ “บัวผัด แฟคทอรี่” ทำให้งานทอมือจาก “เศษผ้าพื้นเมือง” ดูแปลกตาไปอีกแบบด้วยความคิดสร้างสรรค์ทางด้านการออกแบบ และผลิตทั้งการทอ การเย็บเศษผ้าแต่ละชิ้นให้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น พรมทอมือ หมอน เก้าอี้ผ้า และของตกแต่งบ้านต่างๆ

วิไล ไพจิตรกาญจนกุล ผู้บริหาร และผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บัวผัด แฟคทอรี่ ผู้ผลิตและส่งออกพรมทอมือ ผลิตภัณฑ์จากเศษผ้า และของตกแต่งบ้าน เล่าว่า เหตุผลที่ต้องพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์ดูแปลกตาจากผ้าพื้นเมืองทั่วไป เพราะต้องการสร้างความแตกต่าง และสร้างเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง โดยได้เทคนิคการผลิตมาจากลูกค้าชาวอเมริกัน ซึ่งคิดว่าเป็นกระบวนการผลิตที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด เพราะทำจากเศษวัสดุ

'บัวผัด แฟคทอรี่' เพิ่มมูลค่าให้เศษผ้า

 

“เราก็เป็นคนประหยัด ชอบเศษวัสดุ และชอบสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศษวัสดุที่มีอยู่ เพราะเดิมครอบครัวเปิดร้านขายผ้า มีเศษผ้าเยอะ ตั้งแต่เด็กๆ ก็จะนำเศษผ้ามาทดลองทำเป็นผลิตภัณฑ์สวยๆ งามๆ อยู่แล้ว พอต้องมาทำจริงจัง ก็พัฒนาไปต่อเนื่องจนในที่สุด ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ภายใต้แบรนด์ บัวผัด แฟคทอรี่”

สำหรับชื่อแบรนด์ “บัวผัด แฟคทอรี่” คำว่า “บัวผัด” เป็นชื่อคุณแม่ เป็นภาษาคำเมือง หรือภาษาท้องถิ่นของทางภาคเหนือ แปลว่า ดอกทานตะวัน ซึ่งตั้งแต่รุ่นคุณพ่อที่เปิดร้านขายผ้า ก็ใช้ชื่อ “บัวผัด พาณิชย์” พอมาตั้งโรงงาน ก็เลยใช้ “บัวผัด แฟคทอรี่” ซึ่งเดิมทีเป็นเพียงโรงงานที่ผลิตสินค้าให้ร้านบัวผัด พาณิชย์ แต่พอทำไปได้ระยะหนึ่ง ก็เริ่มส่งออก จนในที่สุดก็ส่งออก 100% ตลาดตอบรับดีมาก

ขณะที่การทำตลาดในยุคแรก ขายให้กับลูกค้ารายเดียว แต่ก็มานึกถึงคำเปรียบเปรยของฝรั่งที่ว่า “เอาไข่ทั้งหมดใส่ตะกร้าใบเดียว ถ้ามันตก ก็แตกหมด จะทำยังไง” เลยเริ่มขยายไปทำตลาดอื่นๆ ไปยุโรป แล้วก็มาทางฝั่งเอเชีย ท้ายที่สุด ก็กลับมาทำตลาดไทย เหมือนไปเติบโตจากนอกบ้านแล้วกลับมาเติบโตในบ้านตัวเอง แต่โดยส่วนใหญ่แล้วก็ยังถือว่ายอดขายมาจากตลาดส่งออกเป็นหลัก ซึ่ง “บัวผัด แฟคทอรี่” มีการพัฒนาต่อเนื่อง ไม่หยุดนิ่ง

'บัวผัด แฟคทอรี่' เพิ่มมูลค่าให้เศษผ้า

 

วิไล กล่าวว่า บางครั้งคนที่ทำสินค้า จะไม่รู้ว่าสินค้าดี หรือไม่ดียังไง ให้ใช้วิธีการถ่ายรูปเก็บไว้ ภายหลังกลับมาดู จะเห็นจุดบกพร่อง โดยผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้น มีแรงบันดาลใจในการพัฒนาและผลิตทั้งหมด เริ่มจากดูจากเศษวัสดุ แล้วก็มาคิดดูว่าเศษวัสดุนี้เหมาะกับผลิตภัณฑ์อะไร เช่น เหมาะจะเป็นหมอน เป็นพรม หรือทำของแต่งบ้านแบบกลมๆ ส่วนสินค้าที่มีเรื่องราวมากที่สุด ต้องยกให้เศษผ้าที่คล้ายก้อนหินที่ใช้ทำพรมก้อนหิน หมอนก้อนหิน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก

จุดเริ่มต้นของการพัฒนาเศษผ้าให้มีรูปลักษณ์คล้ายก้อนหิน เริ่มจากการที่มีลูกค้าให้โจทย์มาว่า ทำพรมให้เหมือนก้อนหินได้ไหม ตอนนั้นก็ตอบรับไปว่าได้ แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไง แล้วก็เริ่มเก็บก้อนหิน มาดูสี ดูว่าก้อนหินมีสีอะไรบ้าง ตอนนั้นไม่รู้จะทำยังไง เลยเอาก้อนหินไปนอนด้วย เอาไปไว้บนหัวนอน มองดูก้อนหินทุกวัน เหมือนจะให้ซึมซับไปในใจ พอผ่านไป 1 เดือน ก็เริ่มลองผลิต ลองเย็บ ใช้เวลาอีก 1 ปีในการลองผิด ลองถูก จนให้มันสมบูรณ์แบบที่สุด สีก็ต้องไล่เฉดให้ดูเหมือนของจริง

'บัวผัด แฟคทอรี่' เพิ่มมูลค่าให้เศษผ้า

 

หลังจากนั้นต้องนำสินค้าไปออกงานแสดงสินค้า ซึ่งหากลองนึกถึงพรม เวลาไปโชว์เฉยๆ พรม ไม่มีมิติที่จะดึงดูด เพราะเวลาออกงานแสดงสินค้า มีกฎ 3 วินาที คือ ต้องทำให้ลูกค้าหยุดที่บูธให้ได้ภายใน 3 วินาที ถ้าไม่ได้ก็จบ ยิ่งร้านขนาดเล็ก กฎ 3 วินาที ก็จะยิ่งน้อยลงไปอีก เหลือ 2 วินาที หรือเหลือ 1 วินาที

“ถ้า 1 2 3 ลูกค้าไม่จอด หมดโอกาส ต้องทำให้หยุดให้ได้ นั่นจึงเป็นที่มาให้คิดสินค้าที่หลากหลาย เช่น เก้าอี้จากเศษผ้า หมอน ของตกแต่งบ้าน แล้วสร้างให้มีลวดลายที่แปลกใหม่ เพื่อดึงดูด จนพัฒนาเรื่อยๆ กลายเป็นชุดสายน้ำ ก้อนหิน ซึ่งได้ไอเดียตอนไปเที่ยวน้ำตกที่ประเทศจีน เลยลองนึกถึงความอุดมสมบูรณ์ ก็จำลอง น้ำตกที่มีก้อนหินเป็นพรม เพื่อให้คนเข้าไปใกล้ชิดธรรมชาติ”

สำหรับกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์จากเศษผ้า ไม่ใช่เศษผ้าที่ไม่สะอาด แต่เป็นเศษผ้าใหม่ๆ ที่เหลือจากงานผ้าต่างๆ ซึ่งไม่ใช่ว่าจะนำมาใช้ได้เลย ต้องผ่านกระบวนการทำความสะอาดก่อน ทั้งการต้ม การซัก จึงจะนำผลิตเป็นสินค้าได้ โดยจะต้องทำให้สินค้าทั้งหมด ดูแลรักษาง่าย เพราะขายของให้ลูกค้าชาวต่างชาติ ต้องออกแบบให้เข้ากับชีวิตประจำวัน ต้องใส่เครื่องซักผ้าให้ได้ จึงต้องผลิตให้ทนทาน แน่น จะซักมือก็ได้ ก็ซักเครื่องก็ได้

'บัวผัด แฟคทอรี่' เพิ่มมูลค่าให้เศษผ้า

 

การออกแบบให้มีดีไซน์ของ “บัวผัด แฟคทอรี่” ทำให้ได้รับการยอมรับจากทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุด ได้รับรางวัลชมเชยจากการประกวดรางวัลสุดยอดเอสเอ็มอีแห่งชาติของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) โดย วิไล กล่าวว่า กว่าจะได้รางวัลมา ไม่ใช่แค่ดีไซน์ ต้องรวมถึงการบริหารจัดการธุรกิจด้วย ถือเป็นความภูมิใจมาก ยิ่งวันที่ไปรับรางวัล เห็นบริษัทที่ได้รางวัล ล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทที่สมบูรณ์แบบ ทำให้รู้ว่าแบรนด์ “บัวผัด แฟคทอรี่” มีตำแหน่งอยู่ตรงไหนของระดับประเทศ

“การเข้าร่วมการประกวดดังกล่าวกับ สสว. แรกสุดมีประโยชน์กับตัวเอง เหมือนเป็นกระจกเงา ถ้าถามว่าเราสวยหรือยัง ก็ต้องตอบว่า ก็สวยระดับหนึ่ง แต่ยังไม่เป็นนางงาม ดังนั้น เราต้องพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก แล้วสักวันหนึ่งเราจะเป็นนางงาม”

นอกจากเรื่องการประกวดแล้ว สสว.ช่วยทำตลาดต่างประเทศ ได้รับการสนับสนุนให้ออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ ให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ ซึ่งก็ทำให้ได้ลูกค้าต่างชาติจากงานลักษณะนี้มากขึ้น โดยเป้าหมายทางธุรกิจ หวังให้แบรนด์ “บัวผัด แฟคทอรี่” ของไทย สามารถสร้างชื่อเสียงในระดับโลกได้ไม่แพ้แบรนด์ดังๆ ชั้นนำของต่างประเทศ

นี่คือ อีกหนึ่งสุดยอดผลิตภัณฑ์แฮนด์เมด จากเอสเอ็มอีไทย ที่สามารถสร้างชื่อเสียงไปไกลทั่วโลกจากกลิ่นอายล้านนา ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

'บัวผัด แฟคทอรี่' เพิ่มมูลค่าให้เศษผ้า

 

'บัวผัด แฟคทอรี่' เพิ่มมูลค่าให้เศษผ้า

 

'บัวผัด แฟคทอรี่' เพิ่มมูลค่าให้เศษผ้า

 

ข่าวล่าสุด

เกาะติดเลือกตั้ง69 เจาะสนามกทม.เกมชี้ชะตา 4 พรรคการเมืองใหญ่