'บิ๊กทีพอท' ใบชาจีนแดงเสือเหลือง แบรนด์เด่น-คุณภาพแจ่ม
การจะก้าวตามหาฝันหรือเป้าหมายอะไรสักอย่างนั้น บางครั้งก็ต้องกล้าที่จะเริ่มนับหนึ่งและลงมือทำ แม้ว่าบางครั้งอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือนดังหวัง
โดย...พันธสิทธิ เจริญพาณิชย์พันธ์
การจะก้าวตามหาฝันหรือเป้าหมายอะไรสักอย่างนั้น บางครั้งก็ต้องกล้าที่จะเริ่มนับหนึ่งและลงมือทำ แม้ว่าบางครั้งอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือนดังหวังเมื่อลงมือทำครั้งแรกเริ่ม แต่เมื่ออดทนและเรียนรู้ความผิดพลาด นำมาปรับปรุงแก้ไข ฝันที่หวังไว้อาจเป็นจริงขึ้นมาได้
เหมือนดังเช่น โจเซปต์ โก๊ะ เจ้าของกิจการขายใบชาจีน และกาสำหรับชงชา ยี่ห้อ “บิ๊กทีพอท” วัย 50 ปี ในเมืองกวนตัน ทางตะวันออกของมาเลเซีย ที่สามารถสร้างกิจการดังกล่าวขึ้นมาให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใบชาจีนชื่อดังของแดนเสือเหลืองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งๆ ที่เพิ่งเริ่มกิจการมาได้แค่ 3 ปีเท่านั้น
นอกจากนี้ ธุรกิจบิ๊กทีพอทยังมีชื่อเสียงโด่งดังไปถึงต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีลูกค้าทั้งที่มาจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน ไปจนถึงยุโรป เข้ามาอุดหนุนอย่างไม่ขาดสาย
โก๊ะ เล่าถึงที่มาที่ไปของกิจการดังกล่าวว่า เกิดจากการที่เจ้าตัวเริ่มสังเกตพบว่าในเมืองกวนตันยังไม่มีร้านขายใบชาจีนคุณภาพดีจำหน่าย บวกกับความสำนึกรักบ้านเกิด เนื่องจากเจ้าตัวต้องไปเรียนและทำงานในต่างแดนนานถึง 26 ปี ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ได้กลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจเดินออกจากการทำงานประจำในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพลังงานแห่งหนึ่ง เพื่อมาเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง
“ผมต้องการนำเสนอยอดชาคุณภาพดีมาให้คนในเมืองดังกล่าวได้ลองชิม เพราะในระหว่างที่ไปอาศัยอยู่ในเมืองจีน ช่วงปี 1992 ผมได้มีโอกาสไปรู้จักและทดลองชิมใบชาจากแดนมังกร” โก๊ะ กล่าว
ด้วยเหตุนี้ สินค้าของโก๊ะจึงเลือกที่จะนำเข้าวัตถุดิบใบชาคุณภาพดีและเป็นของแท้โดยตรงมาจากประเทศจีนทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากมณฑลฝูเจี้ยนและยูนนาน
ความใส่ใจในคุณภาพของสินค้าของอดีตพนักงานบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงานรายนี้ยังไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ เนื่องจากทุกๆ ปีจะเดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อไปสั่งและเลือกใบชาด้วยตนเอง
สำหรับที่มาของชื่อผลิตภัณฑ์ชา “บิ๊กทีพอท” นั้น โก๊ะ เผยว่า เกิดจากการที่เจ้าตัวได้สังเกตพบว่า บริษัทร้านค้าในตลาดส่วนใหญ่มักขาดแบรนด์หรือโลโก้ที่ทำให้สินค้าของตนโดดเด่นขึ้นมา ดังนั้นจึงมองเห็นเป็นโอกาสในการนำมาประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง ด้วยการเลือกโลโก้ที่ทำให้ดูเรียบง่าย แต่สะดุดตาและจดจำได้ง่าย ที่สำคัญต้องเกี่ยวกับชา ซึ่งในที่สุดก็มาลงตัวที่ “บิ๊กทีพอท” นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม แม้ธุรกิจใบชาจีนจะประสบความสำเร็จอย่างงดงาม แต่กว่าจะมีวันนี้ได้ โก๊ะ เผยว่าต้องใช้ความพยายามและอดทนสูงมากในการลองผิดลองถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนรู้กลวิธีในการต้มใบชาให้ออกมาดี
ไม่เพียงแค่สนใจแต่เฉพาะในด้านธุรกิจเท่านั้น แต่โก๊ะยังใส่ใจถึงเรื่องของประวัติความเป็นมาของใบชาจีนอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีโอกาสไปจีน ก็จะเลือกหาซื้อหนังสือที่เกี่ยวกับประวัติของชา วิธีการต้มชา เพื่อศึกษาเรื่องดังกล่าวให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้โก๊ะกลายเป็นนักสะสมอุปกรณ์และเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับชาจีนตัวยงคนหนึ่งของวงการชาในมาเลเซียเลยทีเดียว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เก็บไว้กับตัวเพียงคนเดียว เห็นได้จากการที่เจ้าตัวถึงขนาดทุ่มเงินถึง 4 แสนริงกิต ในการแปลงโฉมร้านขายชาแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะเปิดร้านในปี 2010
“ภายในร้านจะเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย ซึ่งลูกค้าจะได้รับฟังทั้งเสียงดนตรีและภาพประวัติความเป็นมาของชา” โก๊ะ กล่าวพร้อมเสริมว่าชื่อของร้านมีคำขวัญสั้นๆ ว่า เส้นทางการเดินทางของชา เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ประวัติความเป็นมาอันยาวนานกว่า 4,000 ปี ของใบชาจีน
จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางธุรกิจจากเพื่อนบ้านอีกหนึ่งรายที่เผยให้เห็นว่านอกจากเรื่องธุรกิจแล้ว เรื่องราวความเป็นมาของสินค้านั้นๆ ก็ยังช่วยสร้างแบรนด์สินค้าได้อีกด้วย


