Big Mac Index
นี่ตกลงบ้านเรายังต้องเจอกับความผันผวนอีกนานแค่ไหน
ปูกะตอย : สวัสดีจ้า
โนฮาว : สวัสดีครับ
ปูกะตอย : นี่ตกลงบ้านเรายังต้องเจอกับความผันผวนอีกนานแค่ไหน
โนฮาว : ไม่รู้สิ
ปูกะตอย : หุ้นตกยังไม่เท่าไหร่ เจอเศรษฐกิจหดตัว โอ้แม่เจ้า
โนฮาว : ทนๆ หน่อย เดี๋ยวก็ดีขึ้น
ปูกะตอย : จ้า ใจเย็นจริงๆ
โนฮาว : อย่างนี้แหละ เศรษฐกิจมีขึ้นก็ต้องมีลง อย่างก่อนหน้านั้นเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป ถดถอย ตอนนี้ก็ดีขึ้น ตอนนี้บ้านเราถดถอย เดี๋ยววันข้างหน้าก็ดีขึ้นเอง
ปูกะตอย : พูดไปก็ปวดใจ งั้นเปลี่ยนเรื่องดีกว่า พอดีว่าดูข่าวต่างประเทศ เห็นนักเศรษฐศาสตร์พูดถึงดัชนีแมคโดนัลด์ หรืออะไรนี่แหละ
โนฮาว : อ้อ เรียกว่า Big Mac Index
ปูกะตอย : คืออะไร
โนฮาว : Big Mac Index จัดทำขึ้นจากนิตยสาร The Economist โดยเอาราคาของแฮมเบอร์เกอร์ บิ๊กแม็ค ในแต่ละประเทศมาทำการเปรียบเทียบกัน เพื่อหาอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินของแต่ละประเทศว่าแข็งค่าหรืออ่อนค่าอย่างไรบ้าง เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ถ้าราคาบิ๊กแม็คในประเทศใดถูกกว่าราคาเฉลี่ยในสหรัฐ สะท้อนว่าประเทศนั้นมีค่าเงินอ่อนกว่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือมีค่าต่ำกว่าความเป็นจริง แต่ถ้าราคาบิ๊กแม็คแพงกว่า ก็สะท้อนว่าประเทศนั้นมีค่าเงินแข็งกว่าดอลลาร์สหรัฐ หรือมีค่าสูงกว่าความเป็นจริง
ปูกะตอย : อย่างนี้นี่เอง
โนฮาว : สมมติว่า 1 ดอลลาร์ แลกได้ 30 บาท ถ้าบิ๊กแม็คในสหรัฐขายชิ้นละ 3 ดอลลาร์ ในไทยก็ควรขาย 90 บาท แต่จริงๆ แล้ว ขายแค่ 60 บาท แสดงว่าเงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งตามหลักการค้าระหว่างประเทศ ประเทศที่เน้นส่งออกจะพยายามทำให้ค่าเงินอ่อน เพื่อความได้เปรียบจากการส่งออกนั่นเอง
ปูกะตอย : ว้าว
โนฮาว : อีกอย่าง Big Mac Index สามารถบอกเกี่ยวกับระดับค่าครองชีพของประเทศนั้นๆ ด้วย อย่างตัวอย่างนี้ บิ๊กแม็คในสหรัฐขาย 90 บาท บ้านเราขาย 60 บาท แสดงว่าค่าครองชีพบ้านเรา หรืออำนาจซื้อยังน้อยอยู่
ปูกะตอย : ดีจัง ได้ความรู้เยอะเลย
โนฮาว : เห็นรับประทานแมคโดนัลด์บ่อยๆ ก็ควรจะรู้ไว้บ้างน่ะ วันนี้ขอตัวก่อนนะ บ๊าย บาย


