เอ็มดี "เอไอ เอนเนอร์จี"

อนุรักษ์ ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี หรือ AIE วัย 60 ปี ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์มและน้ำมันปาล์มโอเลอีนผ่านกรรมวิธี ตรา “พาโมลา” เพิ่งยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 445 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อจำหน่ายให้กับประชาชนจำนวน 170 ล้านหุ้น พร้อมกับนำหุ้นเดิมที่ถือโดยบริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ หรือ AI จำนวน 275 ล้านหุ้น ออกจำหน่ายในคราวเดียวกัน เพื่อนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ด้วยเกณฑ์มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) เกิน 5,000 ล้านบาท ไม่ต้องมีกำไรย้อนหลัง 3 ปี

บริษัทจะเรียกชำระหุ้นเพิ่มทุนจาก 960 ล้านบาท เป็น 1,130 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นจำนวน 1,130 ล้านหุ้น

เขาเป็นน้องชายของ “ณรงค์” ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร AI และพี่ชายของ “ธนิตย์” รองประธานกรรมการ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AI

ครอบครัว “ธารีรัตนาวิบูลย์” เดิมทำการประมง โดย “ณรงค์” พี่ชายคนโต ปัจจุบันวัย 63 ปี ก่อตั้ง AI บริษัทผู้ผลิตลูกถ้วยไฟฟ้าเมื่อ 32 ปีก่อน โดยเริ่มจากปี 2524 จนกิจการรุ่งเรือง ปี 2530 จึงชวนน้องชายของเขาคือ “ธนิตย์” วัย 56 ปี ปัจจุบันเข้าไปช่วยกิจการ ช่วงนั้นบริษัทขยายธุรกิจเข้าสู่ลูกถ้วยไฟฟ้าขนาดกลางทดแทนการนำเข้าและเตรียมบุกขายต่างประเทศ

ปี 2547 ดึง “โกวิท” ปัจจุบัน วัย 47 ปี น้องชายอีกคนเข้าไปเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท พีพีซี เอเชียน อินซูเลเตอร์ (PPCAI)

ปี 2549 “อนุรักษ์” วัย 60 ปี ปัจจุบันเข้ามาเป็นกรรมการผู้จัดการ AIE จนกระทั่งทุกวันนี้

AIE ก่อตั้งขึ้นเพื่อผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์มและน้ำมันปาล์มโอเลอีนผ่านกรรมวิธี ภายใต้ตราสินค้า “พาโมลา” บริษัทได้รับใบรับรองคุณภาพและมาตรฐาน อาทิ ISO 9001: 2008 HALAL GMP HACCP KOSHER RSPO มอก. และ อย.

บริษัทได้ลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ของบริษัท เอไอ พอร์ตส์ แอนด์ เทอมินัลส์ (AIPT) ประกอบกิจการให้บริการท่าเทียบเรือและคลังน้ำมันเชื้อเพลิง 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่ อ.ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร และ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร และบริษัท เอไอ โลจิสติกส์ (AIL) ประกอบกิจการให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเรือขนส่งคุณภาพสูงให้บริการรวม 2 ลำ คือ “เรือธารีรัตนา 1” และ “เรือธารีรัตนา 3”

ผลการดำเนินงานล่าสุดบริษัทเพิ่งมีกำไรงวด 6 เดือนแรกปีนี้ที่ 100 ล้านบาท

“ในอดีตบริษัทมีขนาดเล็ก ผลิตไบโอดีเซลได้เพียง 300 ตันต่อวัน จึงทำกำไรยาก แต่ปัจจุบันมีขนาดใหญ่ขึ้นผลิตได้ 1,150 ตันต่อวัน มีขนาดใหญ่ 1 ใน 3 ผู้ผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์มทั้งหมดในประเทศ ดังนั้น จึงประหยัดต่อขนาดและสามารถทำกำไรได้แล้ว”

การระดมทุนครั้งนี้ AIE จะให้สิทธิผู้ถือหุ้นของ AI จองซื้อหุ้นของบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี ได้ตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวนสูงสุดไม่เกิน 250 ล้านหุ้น หรือผู้ถือหุ้น AI จำนวน 2 หุ้นมีสิทธิจองซื้อหุ้นบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี ได้ 1 หุ้น

สำหรับเงินที่จะได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจและปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักร ได้แก่ การลงทุนเครื่องจักรผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากกรดไขมันปาล์ม ลงทุนปรับปรุงกระบวนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ลงทุนก่อสร้างถังเก็บวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูป รวมถึงการชำระคืนหนี้ให้กับเจ้าหนี้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ทั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายงานของบริษัทในอนาคต ซึ่งถือเป็นการเพิ่มศักยภาพให้บริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

กรรมการผู้จัดการ AIE กล่าวว่า บริษัทมีบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ AIPT ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือและคลังน้ำมันเชื้อเพลิง 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่ อ.ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร และ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร และ AIL ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งทางทะเล ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเรือขนส่งคุณภาพสูงให้บริการรวม 2 ลำคือ “เรือธารีรัตนา 1” และ “เรือธารีรัตนา 3” โดยบริษัทเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ของทุนจดทะเบียน AIPT และ AIL ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยทั้งสองแห่ง ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 โดยปัจจุบัน AIE ยังไม่ได้ใช้สิทธิจากบัตรส่งเสริมการลงทุนดังกล่าว

เขามีลูกทั้งหมด 4 คน โดยปัจจุบันมีเพียงลูกสาวคนโตคือ “พิมพ์วรรณ”เข้ามาเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในบริษัท