posttoday

'เอสซีจี' ปั้นธุรกิจสีเขียว พิชิตรางวัลอาคาร LEED

24 สิงหาคม 2556

ก้าวเข้าสู่ปีที่ 100 แล้ว สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำของไทยอย่าง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี ที่ดำเนินธุรกิจตั้งแต่การผลิต วัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์

โดย...โชคชัย สีนิลแท้

ก้าวเข้าสู่ปีที่ 100 แล้ว สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำของไทยอย่าง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี ที่ดำเนินธุรกิจตั้งแต่การผลิต วัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ ปิโตรเคมี กระดาษ ดิสทริบิวชัน และการลงทุน จนถึงวันนี้เครือเอสซีจีสร้างยอดขายไม่ต่ำกว่าปีละ 4 แสนล้านบาท ผงาดเป็นบริษัทชั้นนำในระดับอาเซียน และกำลังไต่สู่ระดับเอเชีย พร้อมกับเป้าหมายสู่การเป็นบริษัทชั้นนำในระดับโลก ซึ่งหัวใจหลักสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเอสซีจี คือ ต้องตอบแทนผลประโยชน์คืนให้กับสังคม โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจสีเขียว (Green Business)

ปราโมทย์ เตชะสุพัฒน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่เอสซีจี ซิเมนต์ และประธานคณะกรรมการการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี กล่าวว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจของปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี นั้น ไม่ได้มุ่งที่ผลตอบแทนสูงจากการลงทุนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะตอบแทนกลับคืนสู่สังคม โดยเฉพาะธุรกิจสีเขียว เรียกได้ว่าก่อให้เกิดประโยชน์อย่างครบวงจร

แต่การจะก้าวไปสู่จุดนั้นได้ต้องเริ่มจากภายในองค์การตั้งแต่การจัดซื้อที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดการของเสียอุตสาหกรรมด้วยการไม่นำไปฝังกลบ (Zero Waste to Landfill) การพัฒนาระบบการจัดการขยะชุมชนเพื่อนำของเหลือใช้ที่ยังมีคุณค่ามาใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนการใช้ถ่านหินหรือน้ำมัน การผลิตไฟฟ้าจากลมร้อนเหลือใช้ ตลอดจนการพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ SCG eco value ที่เป็นการยกระดับสินค้าให้มีมาตรฐาน

ธุรกิจสีเขียวสู่รางวัลอาคารเขียว

ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงได้ปรับปรุงอาคารต่างๆ ในบริเวณสำนักงานใหญ่ เพื่อเป็นต้นแบบแสดงให้เห็นว่าอาคารใช้งานสามารถปรับปรุงเป็นอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ โดยได้ปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ 1, 2 และอาคาร 5 ที่ใช้งานมานานเกือบ 30 ปี ให้เป็นอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตพนักงานให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีความสุขกับการทำงาน ดูแลและรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพื่อแสดงตัวอย่างและการใช้งานผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ผลของการมุ่งสู่ธุรกิจสีเขียว ทำให้ในปลายปี 2555 เอสซีจีได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประเภทการปรับปรุงอาคารใช้งาน (The Leadership in Energy and Environmental Design for Existing Buildings: Operations & MaintenanceLEED EB : OM) ระดับสูงสุด LEED Platinum สำหรับอาคารสำนักงานใหญ่ 1, 2 และอาคาร 5 จากสภาอาคารเขียวสหรัฐอเมริกา (U.S. Green Building Council : USGBC) เป็นรายแรกในอาเซียน ซึ่งถือเป็นมาตรฐานสากลที่มีความเข้มข้นและเป็นที่ยอมรับระดับโลก เพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

“เอสซีจีได้จัดตั้งคณะกรรมการ SCG Green Building เพื่อกำหนดแนวทางการปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ 1, 2 และอาคาร 5 ด้วยงบประมาณกว่า 110 ล้านบาท ใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1 ปีครึ่ง จึงแล้วเสร็จเป็นอาคารสีเขียวที่ได้มาตรฐาน LEED Platinum” ปราโมทย์ กล่าว

ปลุกจิตสำนึกประหยัดพลังงาน

ขณะที่ ชลธร ดำรงศักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศและความยั่งยืน เอสซีจี กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้การปรับปรุงอาคารดังกล่าวจะมีผลตอบแทนในเชิงธุรกิจที่เทียบไม่ได้กับการปรับปรุงกระบวนการผลิต แต่ในมุมมองของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศแล้ว นับว่ามีประโยชน์มหาศาล รวมทั้งความภูมิใจของพนักงานที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ บริษัทจะยังคงมุ่งมั่นรักษาความเป็นอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Building ในระดับสูงสุด LEED Platinum อย่างต่อเนื่อง ด้วยการดูแลรักษาทั้งด้านสภาพภูมิทัศน์ ระบบปรับอากาศ ระบบระบายอากาศ อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประหยัดน้ำ และบุคลากร ซึ่งได้แก่ การปลูกฝังจิตสำนึกด้านการประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม การร่วมกันอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้า การประหยัดน้ำ ระบบการจัดการของเสียจากอาคาร และการจัดซื้อที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ตลอดจนการขยายผล Green Building ไปสู่อาคารอื่นๆ โดยเฉพาะอาคารสร้างใหม่ อาทิ อาคารสำนักงานใหญ่ 3 และอาคารจอดรถที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง เพื่อมุ่งสู่ LEED ประเภทอาคารสร้างใหม่ ในระดับสูงสุด LEED Platinum ต่อไป

นอกจากนี้ ยังเป็นต้นแบบให้ทุกๆ อาคาร ทั้งอาคารใช้งานและอาคารใหม่ ก็สามารถปรับปรุงให้เป็นอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ เพื่อมีส่วนร่วมในการนำระบบนิเวศที่ดีกลับคืนมาอย่างยั่งยืน ซึ่งการปรับปรุงแต่ละอาคาร หากจะคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนจะไม่เกิน 7 ปี

LEED ต่อยอดพัฒนาองค์กรสังคม

เอสซีจีให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาคารประหยัดพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งหวังที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงานให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีความสุขกับการทำงาน และให้พนักงานมีจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งการปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ 1, 2 และอาคาร 5 ที่ใช้งานมานานเกือบ 30 ปี ให้เป็นอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล โดยมีเป้าหมายหลัก คือ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพนักงาน ลดผลกระทบจากการใช้อาคารตามแนวทางมาตรฐานอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ผลจากโครงการดังกล่าว ทำให้พนักงานมีความสุขในการทำงานและสามารถเพิ่มผลงานทำงานได้มากขึ้นขณะเดียวกันยังส่งเสริมภาพลักษณ์ความเป็นองค์กรต้นแบบด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน เผยแพร่แนวคิดการจัดการอาคารที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของเอสซีจีที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับมาตรฐาน LEED เพิ่มขึ้นด้วย

ข่าวล่าสุด

อีลอน มัสก์ สร้างสถิติเป็นคนแรกของโลกที่รวยเกิน 700,000 ล้านดอลลาร์