'เอสซีจี' ปั้นธุรกิจสีเขียว พิชิตรางวัลอาคาร LEED
ก้าวเข้าสู่ปีที่ 100 แล้ว สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำของไทยอย่าง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี ที่ดำเนินธุรกิจตั้งแต่การผลิต วัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์
โดย...โชคชัย สีนิลแท้
ก้าวเข้าสู่ปีที่ 100 แล้ว สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำของไทยอย่าง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี ที่ดำเนินธุรกิจตั้งแต่การผลิต วัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ ปิโตรเคมี กระดาษ ดิสทริบิวชัน และการลงทุน จนถึงวันนี้เครือเอสซีจีสร้างยอดขายไม่ต่ำกว่าปีละ 4 แสนล้านบาท ผงาดเป็นบริษัทชั้นนำในระดับอาเซียน และกำลังไต่สู่ระดับเอเชีย พร้อมกับเป้าหมายสู่การเป็นบริษัทชั้นนำในระดับโลก ซึ่งหัวใจหลักสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเอสซีจี คือ ต้องตอบแทนผลประโยชน์คืนให้กับสังคม โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจสีเขียว (Green Business)
ปราโมทย์ เตชะสุพัฒน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่เอสซีจี ซิเมนต์ และประธานคณะกรรมการการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี กล่าวว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจของปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี นั้น ไม่ได้มุ่งที่ผลตอบแทนสูงจากการลงทุนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะตอบแทนกลับคืนสู่สังคม โดยเฉพาะธุรกิจสีเขียว เรียกได้ว่าก่อให้เกิดประโยชน์อย่างครบวงจร
แต่การจะก้าวไปสู่จุดนั้นได้ต้องเริ่มจากภายในองค์การตั้งแต่การจัดซื้อที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดการของเสียอุตสาหกรรมด้วยการไม่นำไปฝังกลบ (Zero Waste to Landfill) การพัฒนาระบบการจัดการขยะชุมชนเพื่อนำของเหลือใช้ที่ยังมีคุณค่ามาใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนการใช้ถ่านหินหรือน้ำมัน การผลิตไฟฟ้าจากลมร้อนเหลือใช้ ตลอดจนการพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ SCG eco value ที่เป็นการยกระดับสินค้าให้มีมาตรฐาน
ธุรกิจสีเขียวสู่รางวัลอาคารเขียว
ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงได้ปรับปรุงอาคารต่างๆ ในบริเวณสำนักงานใหญ่ เพื่อเป็นต้นแบบแสดงให้เห็นว่าอาคารใช้งานสามารถปรับปรุงเป็นอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ โดยได้ปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ 1, 2 และอาคาร 5 ที่ใช้งานมานานเกือบ 30 ปี ให้เป็นอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตพนักงานให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีความสุขกับการทำงาน ดูแลและรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพื่อแสดงตัวอย่างและการใช้งานผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ผลของการมุ่งสู่ธุรกิจสีเขียว ทำให้ในปลายปี 2555 เอสซีจีได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประเภทการปรับปรุงอาคารใช้งาน (The Leadership in Energy and Environmental Design for Existing Buildings: Operations & MaintenanceLEED EB : OM) ระดับสูงสุด LEED Platinum สำหรับอาคารสำนักงานใหญ่ 1, 2 และอาคาร 5 จากสภาอาคารเขียวสหรัฐอเมริกา (U.S. Green Building Council : USGBC) เป็นรายแรกในอาเซียน ซึ่งถือเป็นมาตรฐานสากลที่มีความเข้มข้นและเป็นที่ยอมรับระดับโลก เพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
“เอสซีจีได้จัดตั้งคณะกรรมการ SCG Green Building เพื่อกำหนดแนวทางการปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ 1, 2 และอาคาร 5 ด้วยงบประมาณกว่า 110 ล้านบาท ใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1 ปีครึ่ง จึงแล้วเสร็จเป็นอาคารสีเขียวที่ได้มาตรฐาน LEED Platinum” ปราโมทย์ กล่าว
ปลุกจิตสำนึกประหยัดพลังงาน
ขณะที่ ชลธร ดำรงศักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศและความยั่งยืน เอสซีจี กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้การปรับปรุงอาคารดังกล่าวจะมีผลตอบแทนในเชิงธุรกิจที่เทียบไม่ได้กับการปรับปรุงกระบวนการผลิต แต่ในมุมมองของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศแล้ว นับว่ามีประโยชน์มหาศาล รวมทั้งความภูมิใจของพนักงานที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ บริษัทจะยังคงมุ่งมั่นรักษาความเป็นอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Building ในระดับสูงสุด LEED Platinum อย่างต่อเนื่อง ด้วยการดูแลรักษาทั้งด้านสภาพภูมิทัศน์ ระบบปรับอากาศ ระบบระบายอากาศ อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประหยัดน้ำ และบุคลากร ซึ่งได้แก่ การปลูกฝังจิตสำนึกด้านการประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม การร่วมกันอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้า การประหยัดน้ำ ระบบการจัดการของเสียจากอาคาร และการจัดซื้อที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ตลอดจนการขยายผล Green Building ไปสู่อาคารอื่นๆ โดยเฉพาะอาคารสร้างใหม่ อาทิ อาคารสำนักงานใหญ่ 3 และอาคารจอดรถที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง เพื่อมุ่งสู่ LEED ประเภทอาคารสร้างใหม่ ในระดับสูงสุด LEED Platinum ต่อไป
นอกจากนี้ ยังเป็นต้นแบบให้ทุกๆ อาคาร ทั้งอาคารใช้งานและอาคารใหม่ ก็สามารถปรับปรุงให้เป็นอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ เพื่อมีส่วนร่วมในการนำระบบนิเวศที่ดีกลับคืนมาอย่างยั่งยืน ซึ่งการปรับปรุงแต่ละอาคาร หากจะคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนจะไม่เกิน 7 ปี
LEED ต่อยอดพัฒนาองค์กรสังคม
เอสซีจีให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาคารประหยัดพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งหวังที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงานให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีความสุขกับการทำงาน และให้พนักงานมีจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งการปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ 1, 2 และอาคาร 5 ที่ใช้งานมานานเกือบ 30 ปี ให้เป็นอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล โดยมีเป้าหมายหลัก คือ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพนักงาน ลดผลกระทบจากการใช้อาคารตามแนวทางมาตรฐานอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ผลจากโครงการดังกล่าว ทำให้พนักงานมีความสุขในการทำงานและสามารถเพิ่มผลงานทำงานได้มากขึ้นขณะเดียวกันยังส่งเสริมภาพลักษณ์ความเป็นองค์กรต้นแบบด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน เผยแพร่แนวคิดการจัดการอาคารที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของเอสซีจีที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับมาตรฐาน LEED เพิ่มขึ้นด้วย


