ย้ำเข้มคุณภาพป.ตรี-อาชีวะ

ป้อนแรงงานตลาดในนอกประเทศเอกชนลั่นจ่ายเงินเดือนสูงกว่า1.5หมื่น

“จาตุรนต์” สั่งทบทวนเปิดปริญญาตรี-อาชีวะปีหน้า เน้นคุณภาพ ปั้นเด็กป้อนตลาดยุคเปิดเสรี

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ว่า เห็นควรให้ทบทวนการเปิดหลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต ซึ่งเป็นหลักสูตรปริญญาตรีสายเทคโนโลยี หรือสายปฏิบัติการในสถาบันอาชีวศึกษา หรือปริญญาตรีอาชีวะอีก 10 แห่งในปีการศึกษา 2557 เพราะต้องการเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ เพื่อตอกย้ำให้เห็นภาพลักษณ์ใหม่ของเด็กอาชีวะยุคใหม่ที่เรียนจบแล้วมีงานทำและได้เงินเดือนสูงกว่าปริญญาตรีทั่วไป เนื่องจากเป็นสายปฏิบัติเฉพาะทางที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศ

หลักเกณฑ์การพิจารณา จะต้องดูหลักการและข้อมูลให้ชัดเจนว่า สถาบันอาชีวศึกษาที่เปิดสอนระดับปริญญาตรีแต่ละแห่งเน้นคุณภาพ และเป็นสายปฏิบัติการจริงหรือไม่ อีกทั้งจะต้องพิจารณาด้วยว่ามีอาจารย์ครบตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กำหนดหรือไม่ มีห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานหรือไม่ ไม่ใช่อนุโลมหรือผ่อนผันให้จนขาดคุณภาพ

นอกจากนี้ การใช้ทรัพยากรจัดการศึกษาระดับปริญญาตรีจะต้องไม่กระทบต่อการจัดการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ด้วย

“ขณะนี้เราต้องเน้นการจัดการศึกษาระดับ ปวช.และ ปวส.มากกว่าระดับปริญญาตรี เพราะต้องการสร้างค่านิยมว่าเรียนจบ ปวช. ปวส. มีโอกาสทำรายได้มากกว่าผู้ที่จบปริญญาตรีได้แต่ถ้าไปเน้นสอนระดับปริญญาตรีสายอาชีพมากเกินไปจนเก่อ จะทำให้เกิดค่านิยมว่าต้องจบปริญญาตรีสายอาชีพก่อนถึงจะมีรายได้สูง ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายเพราะสุดท้ายจะทำให้การเรียนระดับปวช.และปวส.ล้มเหลว” นายจาตุรนต์ กล่าว

ทั้งนี้ ล่าสุดมีผู้ประกอบการเอกชนในนิคมอุตสาหกรรมแจ้งว่า ยังมีความต้องการแรงงานสายปฏิบัติอยู่ประมาณ 12 แสนคน และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ความต้องการแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 5 แสนคน ซึ่งยังไม่รวมความต้องการแรงงานสายปฏิบัติในประเทศเพื่อนบ้านอีกจำนวนมาก

นอกจากนี้ ขณะนี้เริ่มมีผู้ที่เรียนจบระดับ ปวช.และ ปวส.ได้เงินเดือน 1.8-2.5 หมื่นบาทบ้างแล้ว อีกทั้งภาคเอกชนก็ยืนยันว่าหากมีการกำหนดหลักสูตรและฝึกปฏิบัติงานร่วมกัน ภาคเอกชนพร้อมจะจ่ายเงินเดือนผู้ที่จบ ปวช.และ ปวส.สูงกว่า 1.5 หมื่นบาท