พี.เค.เอ็กซิบิชั่นฯ พร้อมลุยเปิดงานใหม่ "ไทยเที่ยวนอก" ปีหน้า

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

คนยุคนี้มีเวลานิดหน่อยก็มักท่องเที่ยวเติมความสุขให้ชีวิต ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวจึงมีโอกาสโต เช่น ธุรกิจจัดงานท่องเที่ยว

กฤตย์ พัตรปาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค.เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ ผู้จัดงานท่องเที่ยวรายสำคัญ เปิดเผยว่า บริษัทจัดงานท่องเที่ยว 3 งานต่อปี ภายใต้ชื่อ ไทยเที่ยวไทย ครั้งแรกจัดต้นปี ครั้งที่ 2 กลางปี ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และครั้งที่ 3 ปลายปี ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งประสบความสำเร็จทุกครั้ง เพราะคนไม่ได้มองว่าต้องมีเงินเหลือจึงเที่ยว แต่เปลี่ยนทัศนคติเป็นเครียดแล้วต้องเที่ยว ยิ่งเศรษฐกิจมีปัญหา ยิ่งเที่ยวมากขึ้น

แม้มีผู้จัดงานท่องเที่ยวเพิ่ม แต่บริษัทไม่กังวลการแข่งขัน เพราะมีจุดแข็งชัดเจน คือ งานไทยเที่ยวไทย เน้นโรงแรม 80% ที่เหลือเป็นธุรกิจท่องเที่ยวอื่น และเน้นมีโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม เอาใจคนที่มาเดิน เพราะสำรวจพบว่า ยิ่งเห็นราคาถูก คนไทยยิ่งเดินทาง ต่อให้เศรษฐกิจมีปัญหา ถ้าจัดงานแล้วตอบโจทย์เรื่องนี้ ก็ไม่ต้องกังวลว่างานจะได้รับผลกระทบ

“โรงแรมเครือใหญ่ๆ มาออกงานมากขึ้น จากเดิมไม่สนใจ เพราะเห็นทิศทางคนซื้อแพ็กเกจจากงานประเภทนี้ จนกลายเป็นส่วนสำคัญที่กระตุ้นการใช้จ่ายในงาน คิดเป็น 50% ของเงินที่สะพัด โดยเฉพาะโรงแรม 5 ดาว ที่จัดโปรโมชันลดราคาเหลือเท่าโรงแรม 3 ดาว” กฤตย์ กล่าว

หลังจากนี้ยังมีแผนขยายงานไทยเที่ยวไทยไปจัดต่างจังหวัด เพราะเริ่มมีการสร้างศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ในต่างจังหวัดมากขึ้น หากคมนาคมสะดวก เอื้อให้จัดงาน และมีความต้องการของผู้ซื้อมากพอก็ไปจัดแน่นอน ส่วนงานที่จัดอยู่แล้ว 3 ครั้งต่อปี อนาคตจะต่อยอดเชิญผู้ซื้อต่างประเทศมาพบผู้ขายในงาน เพิ่มโอกาสขายจากงาน โดยอาจจัดแยกงานให้ผู้ซื้อผู้ขายเจรจา 1 วัน ที่เหลือก็เป็นวันผู้บริโภคทั่วไป

“5 ปีข้างหน้าจะเน้นลดต้นทุนจัดงาน หาพันธมิตรสนับสนุนมากขึ้น รวมทั้งหาพันธมิตรผู้จัดงานส่งเสริมการขายท่องเที่ยวระดับโลก เพื่อต่อยอดงานที่มีอยู่ให้เป็นงานระดับนานาชาติ ขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น ล่าสุดเพิ่งไปหารือบริษัทในฮ่องกง เตรียมร่วมมือกัน เช่น หากจัดงานท่องเที่ยวในไทย ก็ให้ลูกค้าที่ออกงานในฮ่องกงมาออกงานด้วย หากมีงานในฮ่องกง บริษัทก็นำลูกค้าไทยไปออกงานด้วย” กฤตย์ กล่าว

นอกจากยกระดับงานเดิมแล้ว อีกแนวทาง คือ จะจัดงานเพิ่ม 1 งานต่อปี ได้แก่ งานไทยเที่ยวนอก เริ่มครั้งแรกปีหน้า ที่ไบเทค บางนา วันที่ 17-20 ก.ค. 2557 เพื่อจับตลาดคนไทยที่ต้องการไปเที่ยวต่างประเทศ จากที่งานเดิมเน้นจับตลาดคนไทยเที่ยวไทย โดยงานไทยเที่ยวนอกเริ่มเปิดให้จองบูธแล้ว ก็มีการจองล่วงหน้าเข้ามามาก

ขณะที่งานนี้จะแตกต่างจากงานส่งเสริมการขายเที่ยวต่างประเทศของสมาคมท่องเที่ยวที่จัดประจำทุกปี เพราะไม่ได้เน้นขายทัวร์ไปต่างประเทศอย่างเดียว แต่รวมทุกสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการเมื่อจะไปต่างประเทศ ได้แก่ ทัวร์ ที่พักในต่างประเทศ สายการบินที่หลากหลาย คู่มือเดินทาง อุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับไปต่างประเทศ และกระเป๋าเดินทาง เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทกำลังทาบทามองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างประเทศร่วมงาน โดยเฉพาะองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวจากอาเซียน เพื่อรองรับความต้องการเดินทางในอาเซียนมากขึ้น กลุ่มเป้าหมายในงานไม่เจาะจงเฉพาะคนไทย แต่รวมชาวต่างชาติที่ทำงานในไทย (เอ็กซ์แพด) ด้วย คาดว่าใช้งบจัดงาน 10 ล้านบาทขึ้นไป

สำหรับงานล่าสุดที่จะจัด คือ งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 28 วันที่ 5-8 ก.ย.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิดชวนเที่ยวพิทักษ์โลก มีผู้ประกอบการออกบูธ 1,300 บูธ เน้นเสนอแพ็กเกจปลายฝนต้นหนาว คาดว่าผู้ร่วมงานไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน เงินสะพัดมากกว่า 300 ล้านบาท

สรุปว่า งานท่องเที่ยวมีส่วนสำคัญต่อการสร้างรายได้ท่องเที่ยว เพราะเป็นช่องทางสำคัญในการซื้อขาย แต่งานที่จะอยู่ได้ระยะยาว ต้องตอบสนองความต้องการได้ดีทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ไม่เช่นนั้นจะเป็นเพียงงานตามกระแส เกิดขึ้นเร็ว แต่ดับเร็วเช่นกัน