ซีพีเอฟชูตุรกีลุยยุโรป

วาดแผน5ปีดันยอดขายกว่าเท่าตัว4.5หมื่นล.ลั่นขึ้นแชมป์อาหารสัตว์อาหารคนแปรรูป

ซีพีเอฟเปิดแผน 5 ปี ขึ้นผู้นำอาหารและอาหารสัตว์ตุรกี ทุ่ม 500 ล้านบาท สร้างโรงงานอาหารสัตว์ขยายกำลังผลิต 5 แสนตัน เร่งผุดซีพี ช็อป 1,000 สาขา ดันรายได้ 4.5 หมื่นล้านโต 20% ต่อปี

นายเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ กรรมการผู้จัดการ ซีพีเอฟ ตุรกี เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจซีพีเอฟ 5 ปี ในประเทศตุรกีจะรุก 2 ธุรกิจเรือธงหลัก คือ ธุรกิจอาหารสัตว์ และกลุ่มธุรกิจอาหารแปรรูปแบรนด์ซีพี โดยวางเป้าหมายเพิ่มรายได้จาก 1.83 หมื่นล้านบาทในสิ้นปีนี้ เป็น 4.5 หมื่นล้านบาทตามแผน 5 ปีดังกล่าว มีอัตราการเติบโตปีละ 20%

ทั้งนี้ รายได้รวมบริษัท ซีพีเอฟ ตุรกี ปีนี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 8% เมื่อเทียบรายได้ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.68 หมื่นล้านบาท โดยเป้าหมายกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์จะมุ่งตอกย้ำตำแหน่งผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 7% และกลุ่มเนื้อไก่ส่วนแบ่ง 8% เป็นอันดับ 5 กลุ่มอาหารแปรรูปส่วนแบ่ง 6% เป็นอันดับ 6 และไข่ไก่มีส่วนแบ่ง 4% เป็นอันดับ 2 ในตุรกี

ขณะที่การรุกตลาดธุรกิจอาหารสัตว์นั้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ และเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโต โดยเตรียมทุ่มงบ 500 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งที่ 7 ขึ้น มีกำลังผลิต 5 แสนตันต่อปี รองรับได้ 56 ปีนับจากนี้ เพื่อรองรับแผนขยายอาหารไก่ไข่ จากเดิมขายอาหารวัวเป็นหลัก จากกำลังการผลิต 6 โรงงานเดิมรวม 1.5 ล้านตันต่อปี

นอกจากนี้ ยังดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย 5 ปี ที่จะมุ่งเพิ่มรายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์ จากปัจจุบันมีสัดส่วน 33% เป็น 36% จากรายได้รวม ตั้งเป้าปีหน้านี้เติบโต 30%

สำหรับกลุ่มธุรกิจอาหารแปรรูปแบรนด์ซีพี อาทิ ไก่จ้อ ไส้กรอกไก่ จะเป็นอีกหนึ่งหัวหอกการทำตลาด เพราะเป็นสินค้าที่สร้างมูลค่าได้มากกว่า โดยจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จาก 3% เป็น 15% ส่วนธุรกิจเนื้อไก่จะไม่มุ่งเน้นทำตลาดมากนัก เพราะราคาสินค้าขึ้นลง ส่งผลให้บางเวลาขายขาดทุนหรือกำไรน้อย ซึ่งคาดว่าจะปรับเป้าสัดส่วนรายได้จาก 54% เป็นเหลือ 40%

ขณะเดียวกัน ในกลุ่มธุรกิจฟาร์ม หรือขายพันธุ์ไก่ จะปรับลดสัดส่วนรายได้จาก 11% เหลือ 9% ขณะที่การส่งออกมุ่งเน้นส่งสินค้าแปรรูปในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางเท่านั้น อาทิ อิรัก อิหร่าน ฯลฯ คาดว่าจะรักษารายได้จากการส่งออกสัดส่วน 5% และจำหน่ายในตุรกี 95%

นายเรวัติ กล่าวว่า บริษัทยังวางแผนขยายสาขาซีพี ช็อป เพิ่มจาก 420 สาขา เป็น 1,000 สาขาใน 5 ปีข้างหน้า ส่วนสิ้นปีนี้จะครบ 470-480 สาขา โดยจะเน้นการขายแฟรนไชส์เพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบันมีสัดส่วน 10% หรือ 42 สาขาเท่านั้น

“ซีพี ช็อป จะเป็นช่องทางที่ช่วยให้ธุรกิจซีพีเอฟในตุรกีเติบโตยิ่งขึ้น นอกจากนี้แผน 5 ปีทำให้ในอนาคตบริษัทต้องเพิ่มหรือปรับปรุงคลังสินค้าเพื่อรองรับกับปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีอยู่ 5 แห่ง” นายเรวัติ กล่าว

ทั้งนี้ ซีพีเอฟ ตุรกี ได้เข้าไปทำธุรกิจตั้งแต่ปี 2529 และวางให้ตุรกีเป็นฐานการผลิตป้อนตลาดยุโรปและตะวันออกกลาง โดยฟาร์มไก่มีกำลังผลิต 1.4 แสนตันต่อปี แบ่งเป็นการป้อนในโรงงานอาหารแปรรูปซีพีเอฟ 5,000 ตัน และธุรกิจไข่ไก่มีกำลังการผลิต 720 ล้านฟองต่อปีแต่ยังติดมาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารสหภาพยุโรป อาทิ ซาลโมเนร่า เป็นต้น ทำให้ไม่สามารถส่งออกไปในยุโรปได้