ชี้ช่องซับคอนแทรกต์
ผลิตชิ้นส่วนจักรยานยนต์ในเวียดนาม ป้อนอะไหล่รถยนต์ตลาดพม่า
ผลิตชิ้นส่วนจักรยานยนต์ในเวียดนาม ป้อนอะไหล่รถยนต์ตลาดพม่า
แนะอุตฯ ซับคอนแทรกต์ไทย ขยายผลิตชิ้นส่วนมอเตอร์ไซค์ในเวียดนาม อะไหล่รถยนต์ในพม่า
นายสุภาพ สุวรรณพิมลกุล นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ซับคอนแทรกต์) และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.เค.โพลีเมอร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เวียดนามถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพสำหรับการขยายการลงทุนของผู้ประกอบการรับช่วงผลิตหรือซับคอนแทรกต์ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงจักรยานยนต์
ขณะที่พม่าถือเป็นตลาดที่น่าสนใจ แต่ยังต้องรอให้มีผู้ผลิตรายใหญ่เข้าไปตั้งฐานผลิตก่อน โดยกลุ่มที่คาดว่าจะสามารถเข้าไปลงทุนได้ก่อน คือ อะไหล่รถยนต์ เนื่องจากตอนนี้พม่ามีการนำเข้ารถยนต์มือสองจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านอินโดนีเซียมีความโดดเด่นในแง่ขนาดของตลาด และหลายอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูงได้เข้าไปลงทุนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งขณะนี้มีผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่เข้าไปลงทุนแล้ว แต่ซับคอนแทรกต์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ต้องระมัดระวังและทำการศึกษาให้รอบด้านก่อนไปลงทุน เนื่องจากอินโดนีเซียมีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากไทย ไม่เหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกันที่มีวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน
สำหรับการลงทุนของบริษัท เอส.เค.โพลีเมอร์ ผู้ผลิตชิ้นส่วนยางพลาสติก เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ สนใจไปลงทุนในเวียดนามและพม่า โดยคาดว่าจะเริ่มไปลงทุนในเวียดนามในปี 2558 ซึ่งบริษัทมีแผนจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือหลังจากสามารถหาพันธมิตรที่มีลูกค้าอยู่แล้วได้
นอกจากนี้ มีการขยายธุรกิจในประเทศไทย โดยในภาพรวมยอดการผลิตยังเติบโตประมาณ 510% ซึ่งบริษัทยังมีแผนจะปรับน้ำหนักธุรกิจให้การผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 10% ของการผลิตทั้งหมด ขณะที่ 70% เป็นชิ้นส่วนสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 15% สำหรับยานยนต์และที่เหลืออีก 5% เป็นชิ้นส่วนอื่นๆ เช่น ชิ้นส่วนพลาสติกที่ใช้ในงานก่อสร้าง
“เราต้องการเติบโตในทุกกลุ่มเพราะความต้องการของลูกค้ายังเพิ่มขึ้น แต่ที่ต้องการเพิ่มน้ำหนักกลุ่มพลาสติกสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพราะเป็นกลุ่มที่มีผู้แข่งขันน้อยราย โดยคาดว่ากลุ่มนี้จะมีการเติบโตไม่น้อยกว่า 20% ต่อปี” นายสุภาพ กล่าว


