เมทิลโบรไมด์
การตรวจพบสารเมทิลโบรไมด์ที่ใช้รมควันข้าวเพื่อกำจัดมอดซึ่งตกค้างในสินค้าข้าวถุง 34 ยี่ห้อ จากทั้งหมด 46 ยี่ห้อ ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและมูลนิธิชีววิถีทำการสุ่มตรวจ สร้างความกังวลให้ผู้บริโภคไม่น้อย แม้ว่าปริมาณสารตกค้างในตัวอย่างเกือบทั้งหมดจะไม่เกินค่ามาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (โคเด็กซ์) ที่กำหนดไว้ 50 พีพีเอ็ม ยกเว้นข้าวถุงยี่ห้อหนึ่งเท่านั้น ที่มีปริมาณสารตกค้างเกินกว่าที่โคเด็กซ์กำหนด
การตรวจพบสารเมทิลโบรไมด์ที่ใช้รมควันข้าวเพื่อกำจัดมอดซึ่งตกค้างในสินค้าข้าวถุง 34 ยี่ห้อ จากทั้งหมด 46 ยี่ห้อ ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและมูลนิธิชีววิถีทำการสุ่มตรวจ สร้างความกังวลให้ผู้บริโภคไม่น้อย แม้ว่าปริมาณสารตกค้างในตัวอย่างเกือบทั้งหมดจะไม่เกินค่ามาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (โคเด็กซ์) ที่กำหนดไว้ 50 พีพีเอ็ม ยกเว้นข้าวถุงยี่ห้อหนึ่งเท่านั้น ที่มีปริมาณสารตกค้างเกินกว่าที่โคเด็กซ์กำหนด
แม้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องตบเท้าออกมาอธิบายว่า ปริมาณที่ตกค้างอยู่นั้นไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และจะระเหิดไปเมื่อซาวน้ำก่อนหุงและหลังหุงเสร็จ แต่ก็ยังไม่อาจเรียกความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้กลับคืนมาได้ทันที ซึ่งคงต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงเอกชนผู้ประกอบการ ที่ต้องเดินหน้าฟื้นความมั่นใจในคุณภาพข้าวถุงกลับคืนมา
ในด้านหนึ่ง สารเมทิลโบรไมล์ที่กำลังตกเป็นจำเลยสังคมขณะนี้ ประเทศไทยจะต้องเลิกใช้ในปี 2558 แต่ทั้งนี้สาเหตุไม่ได้มาจากผลกระทบต่อสุขภาพ แต่เนื่องจากไทยได้ลงนามในพิธีสารมอนทรีออลว่าด้วยสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน ในปี 2532 ซึ่งเมทิลโบรไมด์ ถือเป็นสารเคมีที่ทำลายชั้นโอโซน และส่งผลให้เกิดภาวะเรือนกระจก ไทยจึงต้องดำเนินการตามพิธีสารดังกล่าว โดยลดการใช้อย่างต่อเนื่อง และต้องเลิกเด็ดขาดในปี 2558 แต่สำหรับประเทศพัฒนาแล้ว ได้เลิกใช้เมทิลโบรไมล์ตั้งแต่ปี 2548
จังหวะเดียวกันนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้เปิดตัวระบบกำจัดมอดและด้วงงวงข้าวโดยใช้ก๊าซไนโตรเจน โดยยืนยันว่าเป็นระบบที่มีความปลอดภัยและมาจากธรรมชาติ เหมาะอย่างยิ่งในการผลิตข้าวออร์แกนิก ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด และสามารถนำมาทดแทนสารเมทิลโบรไมด์ รวมทั้งสารฟอสฟินที่ใช้ในปัจจุบันได้


