รองเท้าเปลี่ยนส้นได้

“ฉันเหนื่อยทุกครั้งที่ฉันต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ เพราะฉันต้องแพ็กรองเท้าส้นสูงนับสิบคู่ ที่มีความสูงและสไตล์แตกต่างกันตามงานที่ฉันต้องไปทั้งแบบเป็นทางการและเป็นกันเอง”

เชื่อได้ว่า สาวๆ หลายคนที่รักการแต่งตัว คงเคยเจอประสบการณ์เดียวกันกับ แคนดิซ แคบบี้ และนาดีน ลุฟโควิช สองสาวเพื่อนซี้ในสหรัฐอย่างแน่นอน จนอาจเคยคิดเล่นๆ ว่า หากมีรองเท้าคู่เดียวที่มีความสูงหลากหลายก็คงจะทำให้ชีวิตสบายขึ้นไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม สองสาวคู่นี้ไม่ได้หยุดอยู่ที่แค่คิด ทว่านำไอเดียดังกล่าวไปต่อยอดจนสำเร็จออกมาเป็น “เดย์ทูไนท์” (Day2Night) ธุรกิจ “รองเท้าเปลี่ยนส้นได้” ที่หนึ่งคู่สามารถเปลี่ยนความสูงของส้นได้ถึง 5 ระดับ ตามความต้องการและกาลเทศะตั้งแต่ครึ่งนิ้วไปจน 3 นิ้ว

เรียกได้ว่า รองเท้า “เดย์ทูไนท์” หรือรองเท้าที่สามารถใส่ได้ตั้งแต่ “เช้ายันค่ำ” นี้สามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้หญิงสมัยใหม่อายุระหว่าง 2136 ปี ให้สามารถเปลี่ยนลุคจากสาวทำงานมืออาชีพในออฟฟิศเป็นสาวเปรี้ยวจี๊ด เพื่อท่องราตรีได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่เลือกขนาดของส้นสูงตามชอบ โดยไม่ต้องเปลี่ยนรองเท้า

เพราะถึงแม้ว่ารองเท้าจะมีราคาสูงถึงคู่ละ 300 เหรียญสหรัฐ (ราว 9,000 บาท) ทว่า ก็ได้รับความสนใจจากสาวๆ อย่างล้นหลาม โดยนับตั้งแต่ที่เริ่มเปิดตัวเมื่อปี 2553 ก็มีลูกค้าแวะเวียนผ่านทางเว็บไซต์หลักของบริษัทตลอดจนถึงทางสื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 600 ครั้งต่อวัน

“การมีธุรกิจเป็นของตัวเองในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป อย่างเช่นกรณีของเดย์ทูไนท์ในช่วงเริ่มต้นเราควักเงินเก็บราว 1.5 หมื่นเหรียญสหรัฐ (ราว 4.5 แสนบาท) เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในการผลิตรองเท้าต้นแบบเพียงเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นเราใช้วิธีระดมทุนเพิ่มเติมจากนักลงทุนอิสระ (แองเจิล อินเวสเตอร์) ซึ่งมีข้อดีหลายอย่าง เช่น ได้รับเงินทุนทันที โดยไม่ต้องมีแบบแผนในการยื่นขอทุนยุ่งยาก เมื่อเทียบกับการกู้เงินจากธนาคาร” แคบบี้ ระบุ

และแม้ในปัจจุบันธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่งแล้ว ทว่า แคบบี้ และลุฟโควิช ไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้ โดยทั้งคู่กำลังวางแผนนำเสนอขายเทคโนโลยีไอเดียรองเท้าเปลี่ยนส้นได้ดังกล่าวให้กับแบรนด์รองเท้าชื่อดังอย่างไนน์ เวส อีกด้วย

นับเป็นตัวอย่างที่ตอกย้ำให้เห็นแล้วว่า “ทุกๆ ความสำเร็จมีจุดเริ่มต้นมาจากไอเดียเล็กๆ” อย่างแท้จริง