โฮลิสติก แอพโพรช

บริการด้านสุขภาพและการแพทย์ของไทย ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ทั้งยุโรป ตะวันออกกลาง และชาติเอเชียเป็นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากคุณภาพการรักษาและราคา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ได้หันมาวางยุทธศาสตร์ส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านเมดิคอล ทัวริสซึม หรือบริการการแพทย์เชิงท่องเที่ยว

นโยบายดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้บริการการแพทย์ของไทยมีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะรูปแบบแพทย์เฉพาะทาง ที่โรงพยาบาลและคลินิกหลายแห่ง ต่างชูจุดเด่น ความเชี่ยวชาญในการรักษาผู้ป่วยเฉพาะโรคขึ้นมา

นพ.กิตติพงศ์ พงศ์แพทย์พิพัฒน์ แพทย์เวชศาสตร์การกีฬา ไคโรเฮลท์ แบงค็อก ศูนย์บริการทางการแพทย์แนวผสมผสานแบบองค์รวม กล่าวว่า แนวโน้มบริการทางการแพทย์ในปัจจุบันที่ทั่วโลกรวมทั้งไทย ให้ความสำคัญในเชิงป้องกันการเกิดโรคควบคู่ไปกับการรักษามากขึ้น

สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันมีจำนวนแพทย์ทั้งสิ้นราว 5 หมื่นคน ต่อประชากรไทยทั้งประเทศเกือบ 70 ล้านคน แน่นอนว่าแพทย์ที่จะเข้ามาบริการดูแลคนไข้ยังมีสัดส่วนน้อย เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ป่วยเกือบทั้งประเทศ

แนวโน้มการดูแลรักษาแบบ โฮลิสติก แอพโพรช (Holistic Approach) หรือบริการทางการแพทย์แบบผสมผสาน ในรูปแบบแพทย์สหสาขาที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ ขมวดเข้ามาให้บริการและดูแลคนไข้ที่ตรงกับความต้องการเฉพาะ ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เช่น เวชศาสตร์ฟื้นฟู ศาสตร์ชะลอริ้วรอยแห่งวัย วิทยาศาสตร์การกีฬา กายภาพบำบัด หรือแม้กระทั่งพีที เพอร์ซันนัล เทรนเนอร์ ที่แนะนำการออกกำลังกายที่เหมาะสมและถูกกับสรีระร่างกายของแต่ละคน

ต่างจากการแพทย์แบบเดิม ที่จะวินิจฉัยสาเหตุ รอยโรค และให้การรักษาตามอาการ โดยแนวโน้มบริการทางการแพทย์นับจากนี้ไป จะมุ่งเน้นเรื่องการป้องกัน และการดูแลมากขึ้นด้วย

ขณะที่ปัจจุบันประเทศไทยมีบริการการแพทย์รูปแบบโฮลิสติก แอพโพรช ค่อนข้างน้อย เพราะเป็นบริการใหม่ แต่ในต่างประเทศเป็นที่นิยมมาก โดยขยายการให้บริการเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งมองว่า หลังจากเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 คาดว่าธุรกิจบริการแพทย์แขนงนี้ จะมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น จากจำนวนประชากรอาเซียนที่เดินทางหมุนเวียนเข้ามาในไทยมากขึ้น