ศิลปะตัดต่อผ้า สไตล์ครูอ้อย งานอดิเรก เสริมรายได้

โดย...ทีมข่าวธุรกิจติดดาว

จากเศษผ้าธรรมดา เมื่อนำมาตัดต่อตกแต่งจนเกิดเป็นลวดลายสวยงาม ก็สามารถแปลงร่างเศษผ้าให้กลายเป็นชิ้นงานที่สวยงามมีมูลค่า ที่เรียกว่า ศิลปะการต่อผ้า หรือควิลท์ (Quilts)

วนิดา นวกุล หรือครูอ้อย เจ้าของสถาบันการต่อผ้า วนิดา ควิลท์ เล่าถึงแนวคิดการสอนตัดต่อผ้าจนเป็นศิลปะบนผืนผ้า หรืองานควิลท์ ว่า เริ่มตั้งแต่ความชื่นชอบงานฝีมือ ตัดเย็บผ้าอยู่แล้ว และเมื่อมีโอกาสติดตามสามีไปที่ประเทศออสเตรเลีย จึงได้รู้จักกับภรรยาท่านทูตออสเตรเลีย และ Miss Jenny Bowker อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญการตัดต่อผ้า และเป็นมือวางอันดับหนึ่งของงานฝีมือในประเทศออสเตรเลีย ทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้การทำงานศิลปะบนผืนผ้า หรือควิลท์ กับ Miss Jenny

หลังจากนั้นพอกลับมาเมืองไทยก็ได้ไปร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปกับ Miss Jenny ที่เดินทางมาประเทศไทย ซึ่งการไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้ได้ติดต่อสอบถามถึงวิธีการทำงานควิลท์ จึงได้มาเปิดสถาบันการสอนตัดต่อผ้าขึ้น

หลายคนสงสัยว่า ศิลปะการต่อผ้าที่แท้จริงคืออะไร ครูอ้อย เล่าว่า ศิลปะการต่อผ้า หรืองานควิลท์ มีหลายรูปแบบ อย่างเช่น การต่อผ้าที่เอาผ้าหลายๆ สีมาแมตช์กันแล้วเอามาเย็บต่อกัน “การแมตช์ผ้า” ก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง งานควิลท์อีกแบบหนึ่งเป็นงาน “แพตเวิร์ก” คือการตัดผ้าแล้วนำผ้ามาต่อกัน หรืออีกแบบเป็นงาน “แอพพลิเค” คือการนำผ้ามาตัดแล้วปะลงไปแล้วสอยด้วยมือ หรือจะเย็บด้วยจักร ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง

วิธีการตัดต่อผ้าก็มีหลายเทคนิคเช่นกัน ที่สถาบันการต่อผ้า วนิดา ควิลท์ จึงนำมาประยุกต์เป็นงานต่างๆ เช่น ทำกระเป๋า พวงกุญแจ โดยเปิดสอนงาน 2 ประเภท ได้แก่ งานผ้านวม และงานกระเป๋า แต่ละประเภทมีการแบ่งหลักสูตรออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับพื้นฐาน ระดับกลาง และระดับสูง โดยมีจุดเด่นที่การสอนและเทคนิคขั้นตอนการสอนสไตล์ตะวันตก ที่สำคัญจะเน้นคุณภาพและความประณีตของผลงานเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานควิลท์

ปัจจุบัน งานควิลท์ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย โดยผู้ที่เข้ามาเรียนนั้น จะเริ่มต้นตั้งแต่งานชิ้นเล็ก ประเภทพวงกุญแจ โดยใน 1 ชุด จะมีอุปกรณ์ทั้งแพตเทิร์น แบบต่างๆ ผ้า และอุปกรณ์ครบครัน รวมทั้งคำแนะนำการลงมือทำ ซึ่งการทำพวงกุญแจจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้เรื่องตัดเย็บเล็กน้อยก็สามารถทำได้ ซึ่งที่ผ่านมาทางสถาบันได้เปิดสอนก็พบว่า ผู้ที่เข้ามาเรียนมากถึง 80% ไม่มีความรู้พื้นฐานเรื่องเย็บปัก แต่ก็สามารถมาเรียนได้

บางคนที่มาเรียนนั้นต้องดูพื้นฐานงานศิลปะเย็บปักถักร้อย ซึ่งมีแตกต่างกันออกไป แต่หากจบคอร์สแล้วยังทำชิ้นงานไม่สำเร็จ ทางสถาบันก็จะขยายเวลาเรียนออกไป เพราะเข้าใจทักษะของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งการขยายเวลาการสอนก็ไม่มีการเก็บค่าใช้จ่าย เพื่อให้ลูกศิษย์ที่มาเรียนกับเราได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพ

แต่ละหลักสูตรใช้เวลาเรียน 6 วัน หรือ 1 สัปดาห์ ซึ่งมีเทคนิคการสอนและทฤษฎีที่สามารถนำกลับไปทำเองที่บ้านได้ เป็นการเรียนที่รวบรัดไม่ต้องใช้เวลานาน เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าผู้ที่สนใจมาเรียนต้องเดินทางจากต่างจังหวัด ประสบกับปัญหาการเดินทางและค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ทางสถาบันจึงมีหลักสูตรรวบรัดในแต่ละคอร์ส โดยที่ไม่ได้ขาดเนื้อหาที่สำคัญ ผู้ที่สนใจสมัครเรียนสามารถสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-624-9480 หรือที่ www.vanidaquilts.com

งานสร้างควิลท์นี้ นอกจากจะทำเพราะมีใจรักแล้ว ยังสามารถนำไปประกอบอาชีพเสริมได้ด้วย ไม่ว่าจะเปิดเป็นรูปแบบการสอนในต่างจังหวัด หรือหากบางคนมีหน้าร้านก็นำไปเปิดจำหน่ายสินค้าที่ทำด้วยตนเองได้ เพราะสินค้าประเภทนี้เป็นงานแฮนด์เมดที่แตกต่างจากท้องตลาดทั่วๆ ไป หรืออาจทำตามออร์เดอร์ จำหน่ายทางอินเทอร์เน็ต สร้างรายได้เสริมอย่างงดงาม

ติดตามชมเรื่องราวสถาบันการต่อผ้า วนิดา ควิลท์ ได้ในรายการธุรกิจติดดาว วันศุกร์ที่ 28 มิ.ย. ทางช่อง 5 เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป