ทีเอ็นทีชี้ขนส่งไทยเติบโตรับอานิสงส์การค้าเอเชียพุ่ง

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

ธุรกิจขนส่งคือฟันเฟืองสำคัญช่วยให้การค้าสำเร็จและอนาคตยิ่งสำคัญมากขึ้น หากไทยต้องการเป็นศูนย์กลางการค้าในหลายธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ทำให้บริษัท ทีเอ็นที เอ็กซเพรส เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุภัณฑ์ด่วนครบวงจรทั้งในและต่างประเทศ เร่งวางแผนขยายธุรกิจเพื่อรองรับโอกาสดังกล่าว

อลัน มิว กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีเอ็นที เอ็กซเพรส เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ทันทีที่การเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เกิดธุรกิจนำเข้าส่งออก จะได้ประโยชน์โดยตรงจากการค้าระหว่างกันที่ง่ายขึ้น ขณะที่ธุรกิจขนส่งจะได้อานิสงส์ตาม เพราะเมื่อนำเข้าส่งออกมากขึ้น การใช้บริการขนส่งจะมากด้วย โดยเฉพาะไทยจะเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดด้านการค้ารับเออีซี

ทั้งนี้ เพราะไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วระดับกลาง ยังมีพื้นที่ว่างในประเทศให้ขยายธุรกิจหรือเพิ่มกำลังการผลิตรองรับโอกาสการค้า ขณะที่สิงคโปร์พัฒนาแล้ว การผลิต การค้าเต็มศักยภาพ คงเติบโตได้ไม่มาก ส่วนประเทศที่กำลังพัฒนาตามมาจากไทย ยังมีกฎเกณฑ์ สิ่งอำนวยความสะดวกไม่พอรับการค้า การลงทุน

สำหรับทีเอ็นที ได้เตรียมพร้อมรับมือการขนส่งที่เติบโต โดยอนาคตอาจนำเครื่องบินโบอิ้ง 747 มาใช้ขนส่งสินค้าระหว่างไทยเอเชีย และไทยยุโรป เพราะเครื่องบินโบอิ้ง 747 รองรับสินค้าได้ 100 ตันต่อเที่ยวบิน ส่วนปัจจุบันบริษัทเป็นพันธมิตรสายการบินไทยและสายการบินเคแอลเอ็ม เช่าพื้นที่ส่งสินค้าระหว่างไทยกับต่างประเทศอยู่ โดยมียอดส่งสินค้าระหว่างไทยกับยุโรป 30 ตันต่อวัน และระหว่างไทยกับเอเชีย 1015 ตันต่อวัน

นอกจากนี้ การขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับต่างประเทศยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยแต่ละปีเปอร์เซ็นต์เติบโตไม่ต่ำกว่า 2 หลัก และปีนี้แนวโน้มธุรกิจขนส่งเติบโตดีมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัวหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ เมื่อพิจารณาการเติบโต พบว่า การขนส่งระหว่างไทยและประเทศในเอเชียด้วยกันมีแนวโน้มเติบโตสูงกว่า ระหว่างไทยและยุโรป สอดคล้องสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ที่เศรษฐกิจเอเชียเติบโตดี แต่เศรษฐกิจยุโรปชะลอตัว

“ธุรกิจหลักที่ใช้บริการขนส่งของบริษัทมากที่สุด คือ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าไฮเทค สินค้าโรงงานอุตสาหกรรม และสุขภาพ ส่วนธุรกิจที่มีแนวโน้มใช้บริการสูงขึ้น คือ ธุรกิจยานยนต์” อลัน กล่าว

ทั้งนี้ แม้การขนส่งเติบโตดี แต่ยังมีปัจจัยน่าเป็นห่วง คือ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบธุรกิจส่งออก โดยลูกค้าที่เป็นบริษัทขนาดกลางทำธุรกิจส่งออก เริ่มได้รับคำสั่งซื้อน้อยลงจากประเทศแถบยุโรป หากบริษัทเหล่านี้ได้รับผลกระทบค่าเงินบาท คำสั่งซื้อลดลงมากๆ การขนส่งจะได้รับผลกระทบตาม จึงอยากฝากให้ภาครัฐดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าเกินไป เพราะไม่เป็นผลดีต่อศักยภาพการแข่งขันของไทย ซึ่งเชื่อว่าภาครัฐก็ให้ความสำคัญดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว

ขณะเดียวกัน ภาครัฐควรเร่งปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคที่จะทำให้การขนส่งสินค้าทำได้สะดวกขึ้น ต้นทุนถูกลง เพราะปัจจุบันการขนส่งในไทยต้นทุนสูงมากเมื่อเทียบกับสิงคโปร์ หรือแม้แต่เวียดนาม ส่วนเรื่องการแข่งขัน ไม่เป็นห่วง เพราะเชื่อว่าคุณภาพการบริการทำให้ลูกค้าประทับใจ

คงต้องฝากความหวังให้รัฐบาลส่งเสริมการขนส่งระบบรางจริงจังเสียที ไม่เช่นนั้นการขนส่งในไทยจะเป็นตัวถ่วงรั้งการเติบโตทางการค้าของประเทศ หากยังเน้นการขนส่งทางบกเช่นปัจจุบัน