เหตุไฟดับกับงู หนู นก

สัปดาห์นี้ “คิดนอกกรอบ” ขอต่อเรื่องไฟดับอีกสักครั้ง

เหตุที่ต้องพูดกันซ้ำซาก เพราะเมื่อวันศุกร์ที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุ “ไฟดับเป็นวงกว้าง” ขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ แจ็กพอต มาแตกที่ย่านบางนา พื้นที่รอยต่อกรุงเทพฯสมุทรปราการ

ตอนแรกก็ตกอกตกใจ หวั่นว่ามีใครเล่นอะไรแผลงๆ หรือเปล่า เพราะ รมว.พลังงาน “พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล” เพิ่งแจงในที่ประชุมสภาพิจารณางบประมาณไปไม่กี่วันว่า กรุงเทพฯ ก็มีความเสี่ยงไฟดับเช่นเดียวกับภาคใต้ที่เพิ่งผ่านไปสดๆร้อนๆ

จึงโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง ที่ปรากฏว่า “งู” เป็นตัวต้นเรื่องไฟดับบางนา

อาทร สินสวัสดิ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง เปิดเผยถึงสาเหตุว่า มีงูลำตัวยาวเกือบ 2 เมตร เลื้อยเข้าไปในสถานีไฟฟ้าย่อยพุทธรักษา อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ทำให้อุปกรณ์ชอร์ตเสียหาย ส่งผลไฟฟ้าดับร่วม 1 ชม. กว่า กฟน.จะแก้ไขจนระบบไฟฟ้ากลับสู่ภาวะปกติ

ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่งูทำให้ไฟดับ เพราะที่ผ่านมาเหตุการณ์ไฟดับที่มีสาเหตุจากสัตว์มีอยู่เป็นประจำ เช่น งูเลื้อยขึ้นไปบนเสาไฟฟ้า สายไฟฟ้า หรือนกเกาะลูกถ้วยแล้วเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรไหลผ่านตัวนกลงสู่ดิน ส่งผลให้อุปกรณ์ป้องกันทำงาน ทำให้ไฟดับ เป็นต้น

ครั้งหนึ่งที่ญี่ปุ่น โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมาเกิดขัดข้อง ตรวจสอบ “ซากหนู” ใกล้แผงไฟฟ้าที่เป็นตัวจ่ายไฟไปยังระบบหล่อเย็นที่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 3 แห่งในโรงไฟฟ้า จึงทราบว่า “หนู” ตัวเล็กๆ ตัวเดียวกัดสายไฟ ทำให้โรงไฟฟ้าขัดข้องและทำให้เกิดไฟดับ

อันที่จริงหน่วยงานด้านไฟฟ้ามีการดำเนินการเพื่อลดปัญหาไฟดับที่เกิดจากสัตว์ อย่าง งู หนู และนก อาทิ ติดตั้งแผ่นป้องกันงูสำหรับหรับเสาไฟฟ้าแรงสูง และอุปกรณ์ป้องกันนกบนลูกถ้วย หรือ Bird Guard เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การลดปัญหาไฟดับที่มีสาเหตุจากสัตว์ ยังสามารถปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นได้อีก ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงอุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น การตรวจตราอย่างเข้มงวด ฯลฯ

อย่าปล่อยให้ งู หนู นก ฯลฯ มาทำให้อกสั่นขวัญหายจากไฟดับเลย