บ้านทองสมสมัย ร้านทอง 100 ปีสู่เออีซี

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

ร้านทอง “บ้านทองสมสมัย” อายุ 100 ปีจากสุโขทัย เกาะกระแสเออีซี บุกตลาดประเทศเพื่อนบ้าน

ราคาทองคำที่ผันผวนรุนแรงตั้งแต่เดือน เม.ย.พ.ค. กระตุ้นคนไทยแห่เข้าไปซื้อทองแน่นร้านค้าทองคำ อานิสงส์ต่อเนื่องไปยังช่างทอง ผู้ผลิตเครื่องประดับทองคำไม่เพียงพอกับความต้องการ เพราะคนไทยมีเงิน จึงซื้อทองไว้ทั้งเป็นเครื่องประดับ สะสม หรือบางส่วนซื้อไว้ขอคนรักแต่งงาน

ปราโมทย์ เขาเหิน เจ้าของบ้านทองสมสมัย ผู้ผลิตทองลวดลายโบราณของสุโขทัยมายาวนาน 100 ปี เปิดเผยว่า ราคาทองที่ลดลงมาก ทำให้ลูกค้าเข้ามาซื้อทองคำในร้านเพิ่มขึ้น 10% หรืออยู่ที่ 220 บาทต่อเดือน จากก่อนหน้านี้มีลูกค้ามาซื้อทองคำเฉลี่ย 200 บาทต่อเดือน โดยทองถือเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง เพราะสามารถซื้อเก็บไว้ระยะยาวเพื่อลงทุน และซื้อไว้เพื่อเป็นเครื่องประดับ

สำหรับการเข้ามาสืบทอดธุรกิจรุ่นที่ 3 ต่อจากรุ่นคุณแม่ ซึ่งเป็นรุ่นที่สอง โดยมีคุณตาเป็นผู้บุกเบิกรุ่นแรก หลังจากเข้ามาทำธุรกิจเต็มตัว ได้พัฒนารูปแบบของทองให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น แต่คงความเป็นเอกลักษณ์โบราณและความสวยงามของลวดลายสุโขทัยไว้

งานผลิตทองของ “บ้านทองสมสมัย” อยู่ที่ ต.ท่าชัย อ.ศรีสัชนาลัย แต่ละชิ้นงาน ผลิตเพียง 1 ชิ้นในโลก จากช่างที่มีฝีมือในโรงงานจำนวน 40 คน

เอกลักษณ์ของทองสุโขทัยได้รับการถ่ายทอดมาจากสมัยโบราณ มีลวดลายโบราณ งานที่ผลิตแต่ละชิ้นจึงสวยงาม มีเสน่ห์และประณีตสูงสุด เมื่อเห็นผลงานจะรู้ได้เลยว่าเป็นทองที่ผลิตจากสุโขทัย ทำให้ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงมายาวนานจนถึงปัจจุบัน

“รุ่นแรกคุณตาจะรับผลิตตามคำสั่งของลูกค้า ซึ่งทำเพียงคนเดียว เมื่อถึงรุ่นที่สอง คุณแม่ ก็ผลิตตามคำสั่งของลูกค้า แต่เมื่อยอดผลิตสูงขึ้นมากจนผลิตไม่ทัน จึงต้องเพิ่มช่างฝีมือมากขึ้นและขยายธุรกิจให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น” ปราโมทย์ กล่าว

เครื่องประดับทองคำมีหลากหลาย ทั้งสร้อยคอ กำไล ต่างหู แหวน จี้ งานพระพุทธรูป กรอบพระ หรืองานที่รับทำตามออร์เดอร์ โดยราคาขายเริ่มต้นที่ 2,0003,000 บาท สำหรับต่างหูหรือแหวน และขึ้นอยู่กับน้ำหนักของทองคำและราคาทองคำในตลาด

“ราคาทองสุโขทัยไม่ได้แพง เพราะทองสุโขทัยทำจากทอง 99.99% ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์ทองสูงกว่าทอง 96.5% หรือทองตู้แดง ส่วนค่าแรงหรือค่ากำเหน็จ ก็ไม่สูง กว่าทองตู้แดง คิดค่างานตามความยากง่าย”

ปัจจุบัน การแข่งขันในธุรกิจร้านค้าทองกลุ่มงานฝีมือ ถือว่าไม่มากนัก เพราะจำนวนช่างทองมีไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงต้องการสร้างช่างทองรุ่นใหม่มากขึ้น ทำให้มีแผนสร้างสถาบันที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดให้ความรู้การทำทองสุโขทัย เพื่อให้มีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำอาชีพช่างทองเพิ่มขึ้น และไม่ทำให้อาชีพช่างทองสูญหายไป คาดว่าจะจัดตั้งสถาบันในเวลา 10 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ ยังมีแผนเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ ขยายร้านบ้านทองสมสมัยในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้า คาดว่าจะเปิดใน 3 ปีนับจากนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปี ที่ได้ขยายสาขาใหม่ จากปัจจุบันมีร้านค้าเพียง 1 แห่งที่ จ.สุโขทัย

ปราโมทย์ บอกว่า นอกจากต้องการขยายตลาดในประเทศแล้ว สนใจขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียนเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว พม่า กัมพูชา เพราะวัฒนธรรมการซื้อทองคำใกล้เคียงกับผู้บริโภคในประเทศไทย

ปัจจุบันมีลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านสั่งซื้อทองของบ้านทองสมสมัยจำนวนมาก แต่การที่ไปต่างประเทศนั้นไม่ง่าย อยากให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนการไปโรดโชว์และทำตลาดอย่างต่อเนื่อง

ส่วนรายได้ของบ้านทองสมสมัยในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 1015% จากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 20 ล้านบาท โดยไม่ได้เน้นเติบโตแบบหวือหวา แต่ต้องการเติบโตแบบมั่นคง รวมถึงการเปิดสาขาใหม่ด้วย

เป้าหมายสำคัญสุดคือ อยากให้บ้านทองสมสมัยคงอยู่กับคนไทย และทำให้มรดกการทำทองลวดลายโบราณของสุโขทัยได้รับการสืบทอดจากคนรุ่นใหม่ต่อไป