posttoday

รถยนต์ใช้ในกิจการ

24 พฤษภาคม 2556

การประกอบธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ส่วนใหญ่มีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะในการประกอบกิจการ หากไม่ซื้อหามาใช้ก็ใช้วิธีเช่า หรือว่าจ้างเป็นครั้งคราว

การประกอบธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ส่วนใหญ่มีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะในการประกอบกิจการ หากไม่ซื้อหามาใช้ก็ใช้วิธีเช่า หรือว่าจ้างเป็นครั้งคราว

ผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หากจะซื้อหรือเช่ารถยนต์มาใช้ในกิจการควรคำนึงถึงรายจ่ายของรถยนต์แต่ละประเภทด้วย เพราะหากนำมาหักเป็นรายจ่ายมากกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือขอคืนภาษีซื้อโดยไม่ทราบว่าไม่สามารถขอคืนได้ ทำให้ปฏิบัติผิดพลาด เมื่อถูกตรวจต้องเสียภาษี เบี้ยปรับและเงินเพิ่ม

กฎหมายภาษีสรรพากรได้กำหนดให้รายจ่ายของรถยนต์ที่นำมาใช้ในกิจการ รวมถึงรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์นั้น สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้ รวมถึงการนำภาษีซื้อมาขอคืนภาษีหรือนำมาหักภาษีขาย

รถยนต์ที่ใช้ในกิจการมีหลายประเภท เช่น รถเก๋ง รถปิกอัพ รถบรรทุก รถยนต์โดยสารไม่เกิน 10 ที่นั่ง เป็นต้น กิจการใดจะใช้รถยนต์แบบใด ก็แล้วแต่ความจำเป็นของธุรกิจนั้น

การหักรายจ่าย การขอคืนภาษีซื้อหรือนำภาษีซื้อมาหักภาษีขาย สำหรับรถยนต์ที่ใช้ในกิจการ สรุปได้ดังนี้

l การหักรายจ่าย

รถยนต์ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง หรือรถบรรทุก หรือรถยนต์โดยสารไม่เกิน 10 ที่นั่ง กิจการสามารถนำรายจ่ายที่เกิดขึ้นมาหักเป็นรายจ่ายได้ทั้งสิ้น

ทั้งนี้ รายจ่าย ได้แก่ ราคารถยนต์ ดอกเบี้ย ค่าขนส่ง ภาษีหรือค่าธรรมเนียมอื่นๆ เป็นต้น รายจ่ายที่เกิดขึ้นเพื่อให้ได้รถยนต์มาใช้งานให้นำมารวมเป็นมูลค่าต้นทุนของรถยนต์นั้น แต่กฎหมายไม่ให้หักเป็นรายจ่ายทั้งก้อนในปีเดียว แต่กำหนดให้หักเป็นค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาในแต่ละปีในอัตราไม่เกิน 20% ของมูลค่าต้นทุนนั้น

กล่าวคือ แบ่งหัก 5 ปี เป็นอย่างน้อย โดยหักปีละไม่เกิน 20%

อย่างไรก็ตาม รายจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งรถยนต์นั่ง หรือรถยนต์โดยสารที่ไม่เกิน 10 ที่นั่ง ตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายได้ไม่เกิน 1 ล้านบาทเท่านั้น

นั่นก็คือ หากซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์ราคาสูงกว่า 1 ล้านบาท จะนำมาหักค่าเสื่อมราคาได้เพียง 1 ล้านบาท โดยหักค่าเสื่อมราคาได้ปีละไม่เกิน 2 แสนบาท สำหรับมูลค่าต้นทุนส่วนที่เกินกว่า 1 ล้านบาท ไม่สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายได้ (กิจการให้เช่ารถยนต์ สามารถนำมูลค่าต้นทุนรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่ไม่เกิน 10 ที่นั่งที่นำมาให้เช่า มาหักรายจ่ายได้ทั้งจำนวน) สำหรับรถยนต์ประเภทอื่นๆ หรือยานพาหนะอื่น สามารถนำมูลค่าต้นทุนมาหักรายจ่ายได้ทั้งจำนวน

l การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือนำภาษีซื้อมาหักภาษีขาย

ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถนำภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์บรรทุก รถปิกอัพ รถยนต์โดยสารเกิน 10 ที่นั่งตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต มาขอคืนภาษีซื้อหรือนำภาษีซื้อมาหักภาษีขายได้ แต่ภาษีซื้อของรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารไม่เกิน 10 ที่นั่งตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ไม่สามารถขอคืนภาษีซื้อหรือนำภาษีซื้อมาหักภาษีขายได้ แต่ภาษีซื้อดังกล่าวสามารถนำมาหักรายจ่ายเพื่อคำนวณกำไรสุทธิได้

ในการปฏิบัติงานจริง ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจะมีภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องในการใช้รถยนต์ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมแซม เป็นต้น ดังนั้นภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ประเภทนั้นๆ จะสามารถขอคืนภาษีซื้อหรือนำภาษีซื้อมาหักภาษีขาย หรือนำภาษีซื้อมาหักรายจ่ายได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเป็นภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ประเภทใด

สวัสดีครับ

ข่าวล่าสุด

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบ กังวลเงินทุนด้านเอไอกดดันหุ้นเทคโนโลยี