"ตัน"แยกธุรกิจอาหารไล่บี้โออิชิ

ตัน แยกธุรกิจอาหารจากเครื่องดื่ม รับแผนปั้นอิชิตันเข้าตลาดหลักทรัพย์ ด้านโออิชิเท 900 ล้านบาท ผุด 270 สาขา

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างใหม่ด้วยการแยกธุรกิจอาหารออกจากเครื่องดื่ม พร้อมตั้งบริษัท กินกับตัน ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท เพื่อดูแลธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งหมด เพื่อสร้างขาธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารให้เติบโตอย่างรวดเร็ว และเพิ่มสภาพคล่องการบริหารธุรกิจให้ชัดเจน

นอกจากนี้ ยังเป็นการรองรับแผนดันบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประมาณปลายปีนี้ โดยจะยื่นแบบแสดงข้อมูลในเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งจะเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1,000 ล้านบาท เป็น 1,300 ล้านบาท เพื่อระดมทุนขยายธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจร

สำหรับปีนี้คาดว่ารายได้กลุ่มเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่มมากกว่า 5,000 ล้านบาท เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4,500 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจอาหารที่แยกออกไปคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มจาก 400 ล้านบาท เป็น 600 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้

นางสุนิสา ภาสกรนที รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กินกับตัน เปิดเผยว่า ได้วางแผนการดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นระยะ 3-5 ปีนี้ จะทุ่มงบ 200-300 ล้านบาท ขยายสาขาร้านอาหารญี่ปุ่น 5 แบรนด์ที่มีอยู่ให้ครบ 50-60 สาขา จากปัจจุบัน 21-22 สาขา คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มเป็น 1,200 ล้านบาทภายใน 3 ปีจากนี้ โดยจะมีทั้งการขยายสาขาแบรนด์เดิมและการสร้างแบรนด์ใหม่

ทั้งนี้ ปัจจุบันแบรนด์อาหารในเครือกินกับตันประกอบด้วย 5 แบรนด์หลัก คือ เมลทมี ราเมนแชมเปี้ยนส์ ตันตัน อิซากายะ บุฟเฟ่ต์ โทคิยะ และซูชิ โอตารุด้านนายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นโออิชิ เปิดเผยว่า แผน 3 ปีของบริษัท คาดใช้งบลงทุน 600-900 ล้านบาท ขยายสาขาเพิ่มจาก 172 สาขาในปีนี้ เพิ่มเป็น 270 สาขา ภายใต้ 6 แบรนด์ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดธุรกิจอาหารญี่ปุ่นหลังจากอยู่ในตลาด 10 ปี

ขณะเดียวกัน แม้คู่แข่งจะแยกบริษัทเพื่อบริหารธุรกิจ แต่บริษัทยังมั่นใจว่าโออิชิยังครองความเป็นผู้นำตลาด เพราะมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โดยธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นมีมูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท ปีนี้เติบโต 15% โออิชิมีส่วนแบ่งเกือบ 35% สิ้นปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 7,000 ล้านบาท