ร้านสูทเร่งปรับตัวรับเออีซี

นักท่องเที่ยวอาเซียนแห่ช็อปปิ้งประตูน้ำ‘ชู’เร่งแตกแบรนด์ใหม่รับกำลังซื้อคึก

ร้านสูทไทยปรับตัวรับนักท่องเที่ยวเอเชียบุกประตูน้ำ ขึ้นแท่นแหล่งช็อปปิ้งเสื้อผ้าใหญ่สุดอาเซียน

นายชูชัย จันประเสิรฐวงษ์ เจ้าของทายาทรุ่น 2 ธุรกิจร้านชุดสูท “ชู” (Chu) เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการร้านตัดเย็บชุดสูทย่านประตูน้ำราว 20 ราย ทั้งรายเดิมที่มีอายุหลายสิบปีและรายใหม่ที่เข้ามาในตลาดต่างเริ่มปรับตัวรองรับกำลังซื้อใหม่ๆ จากประเทศสมาชิกอาเซียนเดินทางหมุนเวียนเดินทางเข้ามาไทยมากขึ้น หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558

การทำธุรกิจเข้าสู่เศรษฐกิจประชาคมอาเซียน(เออีซี)ในปลายปี 2558 ที่จะมี ขณะที่ปัจจุบันร้านสูทชูมีอายุราว 45 ปี ล่าสุด ได้ปรับตัวเพื่อทำตลาดไปต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม (ซีแอลเอ็มวี) ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ใกล้กับไทยและมีความคุ้นเคยด้านวัฒนธรรม รวมถึงมองหาพันธมิตรคู่ค้าธุรกิจด้านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่มีหน้าร้านอยู่แล้ว เพื่อขยายการทำตลาดชุดสูทไปยังประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นต้น

“ทางร้านชูและผู้ประกอบการธุรกิจเสื้อผ้าในย่านประตูน้ำเห็นแนวโน้มในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา ว่ามีนักท่องเที่ยวจากเอเชีย โดยเฉพาะชาวจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย เข้ามาเที่ยวและจับจ่ายซื้อเสื้อผ้าในย่านนี้มากขึ้น ซึ่งจากเดิมกลุ่มหลักจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวยุโรป หรือตะวันตกที่ขณะนี้เริ่มลดลง” นายชูชัย กล่าว

สำหรับแนวทางธุรกิจของร้านสูทชูยังสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐที่ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านแฟชั่นเครื่องแต่งกาย ตั้งแต่ภาคการผลิตไปจนถึงค้าปลีก โดยเฉพาะย่านประตูน้ำที่ปัจจุบันถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทาง (เดสติเนชั่น) สำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลกและเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่มีชื่อเสียงและใหญ่สุดในอาเซียน

สำหรับนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ที่ปรับเพิ่มขึ้นในต้นปีที่ผ่านมา ทางร้านไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะใช้แรงงานที่มีทักษะฝีมือที่ได้รับค่าแรงเกิน 300 บาทขึ้นไปเนื่องจากธุรกิจหรือตลาดตัดชุดสูท จำเป็นต้องใช้แรงงานที่มีคุณภาพและมีฝีมือในการตัดเย็บสูงมากกว่าตลาดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายประเภทอื่นๆ รวมทั้งปัจจัยการนำเข้าวัตถุดิบผ้า เพื่อการตัดเย็บที่เคยมีราคาสูงในปีก่อน ที่ส่งผลกระทบกับต้นทุนภาพรวม แต่ปัจจุบันได้ปรับราคาลงมาแล้ว ทำให้ไม่ต้องปรับราคาตัดเย็บชุดสูทเพิ่มขึ้นในขณะนี้

สำหรับภาพรวมธุรกิจร้านตัดชุดสูทย่านประตูน้ำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการแข่งขันรุนแรงด้านราคา ทั้งการจัดโปรโมชั่นต่างๆ ซึ่งทางร้านชูมองว่าไม่ทำให้เกิดผลดีกับตลาดในระยะยาว ซึ่งได้หันไปใช้กลยุทธ์เพิ่มมูลค่าสินค้า รวมถึงมีแนวคิดแตกแบรนด์ใหม่เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ในอนาคตด้วย ปัจจุบันร้านชูมีคำสั่งซื้อ (ออร์เดอร์) เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 100 ชุดต่อเดือน วางราคาจำหน่ายต่อชุดตั้งแต่ 3,500-1 หมื่นบาท