ข้อสังเกต ภ.ง.ด. 50

การยื่นแบบเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด. 50) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2555 ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เสียภาษีจากฐานกำไรสุทธิ มีข้อสังเกตเกี่ยวกับประเด็นที่ผู้ประกอบการมักปฏิบัติผิดพลาด ดังนี้

นับวันเวลายื่นแบบเสียภาษีผิดพลาด การยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50 ต้องยื่นภายใน 150 วัน นับแต่วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี ถ้านับวันเวลาผิดพลาดไปเกินกว่า150 วัน ต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท หากมีภาษีชำระก็จะเสียเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของภาษีชำระอีกด้วย

สำหรับบริษัท ฯลฯ ที่มีรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2555 วันสุดท้ายของการยื่นเสียภาษีด้วยแบบฟอร์มกระดาษจะเป็นวันพฤหัสบดีที่ 30 พ.ค. 2556 ซึ่งก็เหลือเวลาไม่ถึงเดือน แต่ถ้าหากยื่นแบบผ่าน www.rd.go.th จะได้รับการขยายกำหนดเวลาออกไปอีก 8 วัน วันสุดท้ายของการยื่นแบบไม่เกินวันศุกร์ที่ 7 มิ.ย. 2556 แต่ควรยื่นแบบเสียภาษีแต่เนิ่นๆ หากผิดพลาดขึ้นมายังปรับปรุงแก้ไขได้ทัน

บริษัท ฯลฯ ที่มีวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีที่มิใช่วันที่ 31 ธ.ค. 2555 คงต้องนับวันเวลาครบกำหนด 150 วันเอง

อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2555 การเสียภาษีจากฐานกำไรสุทธิมีอัตราภาษีแตกต่างกันอยู่หลายอัตรา โดยปกติจะเสียภาษีอัตราร้อยละ 23 แต่กฎหมายก็ให้สิทธิพิเศษแก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือที่มักเรียกกันว่า SMEs โดยเฉพาะรายที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และรายได้จากการขายสินค้าและบริการไม่เกิน 30 ล้านบาท ได้รับยกเว้นภาษีสำหรับกำไรสุทธิ 150,000 บาทแรก เสียภาษีอัตราร้อยละ 15 สำหรับกำไรสุทธิส่วนที่เกินกว่า 150,000 บาท แต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท และอัตราร้อยละ 23 สำหรับกำไรสุทธิส่วนที่เกินกว่า 1,000,000 บาทขึ้นไป

หักรายจ่ายไม่ถูกต้อง การคำนวณหากำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลต้องเป็นตามเงื่อนไขมาตรา 65 ทวิ และ 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งมีหลากหลายรายการและเงื่อนไขแตกต่างกัน กฎหมายได้กำหนดรายจ่ายใดนำมาหักได้หรือหักไม่ได้ หักได้ทั้งจำนวนทีเดียวหรือทยอยหักค่าเสื่อมราคาในแต่ละปี ซึ่งรายจ่ายทางภาษีและรายจ่ายทางบัญชีมีหลายรายการที่ปฏิบัติแตกต่างกัน

นำรายจ่ายที่ไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินมาหักรายจ่าย บ่อยครั้งที่บริษัท ฯลฯ ได้จ่ายเงินค่าจ้างแรงงาน ค่าจ้างทำของ หรือซื้อสินค้า โดยที่ไม่มีหลักฐานใบเสร็จรับเงินหรือหลักฐานการจ่ายเงินมาประกอบการหักรายจ่าย ทั้งๆ ที่ได้จ่ายเงินจริง แต่ไม่มีหลักฐานให้ตรวจ ทำให้ไม่สามารถนำมาหักรายจ่ายได้ แก้ไขโดยการขอหลักฐานใบเสร็จรับเงิน หรือทำหลักฐานให้ผู้รับเงินลงลายมือชื่อการรับเงินนั้น พร้อมถ่ายสำเนาบัตรประชาชนผู้รับเงินไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบรายจ่าย

นำรายได้มารวมคำนวณไม่ครบถ้วน บริษัท ฯลฯ บางแห่งมีรายได้หลากหลายรายการ อาจหลงลืมไม่ได้นำรายได้บางรายการมารวมคำนวณภาษี ทำให้กำไรสุทธิต่ำกว่าความเป็นจริง กรมสรรพากรสามารถตรวจสอบได้ง่าย เช่น บริษัท ฯลฯ ได้รับเงินได้และถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ เพียงแค่คีย์ข้อมูลเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของบริษัท ฯลฯ ก็จะทราบว่าบริษัท ฯลฯ มีรายได้จากที่ใดบ้าง เป็นต้น

รายได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีแบบมีเงื่อนไข รายได้บางรายการที่ได้รับยกเว้นภาษีแบบมีเงื่อนไข เช่น เงินปันผลจากการถือหุ้นของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามกฎหมายไทย อาจจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้จากเงินปันผลทั้งหมด หรือยกเว้นภาษีกึ่งหนึ่ง เป็นต้น บริษัท ฯลฯ ที่ใช้สิทธิควรตรวจสอบดูว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดหรือไม่

การหักรายจ่ายค่ารับรอง ค่ารับรองสามารถนำมาหักรายจ่ายทางภาษีได้เท่าจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 0.30 ของจำนวนเงินยอดรายได้หรือยอดขายที่ต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายใดในรอบระยะเวลาบัญชี และหักได้ไม่เกิน 10 ล้านบาท บริษัท ฯลฯ ต้องแยกให้ชัดเจนว่าเป็นค่ารับรองลูกค้าหรือรายจ่ายอื่นใดกันแน่ อย่างไรเป็นค่ารับรองลูกค้า หรือรายจ่ายส่วนตัว/เสน่หา?

ผู้ประกอบการที่ปฏิบัติผิดพลาดไปแล้วไม่ว่าจะมีเจตนาหรือไม่ก็ตาม ถ้าไม่เสียเงินเพิ่มเติมก็เสียเวลา