ลองขับ"แอคคอร์ดใหม่"ความลงตัวของเครื่อง2.0ลิตร

โดย...ทีมข่าวมอเตอริ่ง

เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับฮอนด้า แอคคอร์ด โฉมใหม่ ที่วันนี้เป็นที่กล่าวขวัญกันไม่น้อยทีเดียวในตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางกึ่งใหญ่ เพราะแน่นอนว่าการมาของฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่นั้น ย่อมส่งผลกระทบกับเจ้าตลาดอย่างโตโยต้า คัมรี่ อย่างแน่นอน

ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ นี้มาพร้อมกับรูปร่างหน้าตาที่ดูทันสมัยและกระฉับกระเฉงมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนมากทีเดียวครับ ดูแล้วแอคคอร์ดใหม่นี้ดู “เป็นหนุ่ม” มากกว่ารุ่นเดิม แต่เมื่อมองดูรอบๆ แล้ว ผมว่าบริเวณเสา C ด้านหลังนั้นยังเหมือนกับแอคคอร์ดรุ่นเก่าอยู่ไม่น้อยทีเดียว

แต่ดูภูมิฐานน้อยกว่าโตโยต้า คัมรี่ อยู่พอสมควร ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการและความชอบของลูกค้าแล้วว่าชอบรถใหญ่สไตล์ไหน

ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสาร บอกได้เลยครับว่า โอ่โถงและกว้างขวางเอาการ ทั้งที่นั่งของผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลัง โดยเฉพาะพื้นที่วางขาของผู้โดยสารตอนหลังนั้นค่อนข้างจะกว้างทีเดียว ส่วนหลังคาก็ไม่เตี้ยเหมือนกับรูปลักษณ์ภายนอก นั่งแล้วศีรษะไม่ติดแน่ครับ ถ้าคุณไม่ได้สูงขนาด 180 ซม.ขึ้นไป

อุปกรณ์ภายในห้องโดยสารต้องบอกว่า ฮอนด้าเตรียมตัวมาดีมาก เพราะทำออกมาได้เนี้ยบทีเดียว โดยเฉพาะบริเวณที่ต้องสัมผัสบ่อยๆ อย่างพวงมาลัย ก็ใช้วัสดุที่ดีเกือบจะเทียบเท่ารถยุโรปก็ว่าได้ นอกจากนี้ออปชั่นที่ใส่มานั้นก็เต็มๆ แล้วครับ ไม่ต้องไปเสียเงินเพิ่มอะไรอีกแล้ว

เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 รุ่น คือ 2.0 ลิตร และ 2.4 ลิตร ซึ่งเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 155 แรงม้าที่รอบเครื่องยนต์ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 190 |นิวตันเมตร ผมว่าให้การตอบสนองที่ดีใช้ได้เลยทีเดียว ทั้งในเรื่องของอัตราเร่ง ความนุ่มนวลและอัตราการสิ้นเปลืองที่ 12 กม./ลิตร ใช้งานเพลินๆ เลยครับ ทั้งในแบบใช้งานในเมืองและการเดินทางต่างจังหวัด ในแบบสบายๆ ที่ความเร็วระดับ 120-140 กม./ชม. หรือหากอยากโหดก็ 170 กม./ชม.ได้แน่ แต่ก็ต้องลากรอบเครื่องยนต์กันหน่อย

อีกอย่างที่น่าชมเชย คือ เรื่องความเงียบภายในห้องโดยสารที่ทำได้ดีกว่า แอคคอร์ด รุ่นก่อนเยอะครับ ผู้ขับขี่ปล่อยอารมณ์ไปกับเครื่องเสียงภายในรถได้อย่างสบายใจ รวมถึงช่วงล่างที่นุ่มนวลในความเร็วต่ำ แต่ก็หนึบในความเร็วสูง พวงมาลัยแม่นยำใช้ได้เลยครับ เข้าโค้งหนักไม่มีปัญหา ขอแค่รถอยู่ในไลน์ที่ถูกต้องก็คุมรถได้แล้ว

ซึ่งสมรรถนะเท่านี้ ออปชั่นที่ให้ ความนุ่มนวลของช่วงล่าง ความโอ่โถงของห้องโดยสาร กับราคา 1.29-1.49 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับปริมาณออปชั่น ส่วนตัวแล้วผมยกมือเชียร์รุ่น 1.29 ล้านบาท ว่าคุ้มสุดๆ ครับ แต่ถ้ามาแตะ 1.5 ล้านบาทแพงไปแล้วสำหรับรถเครื่อง 2.0 ลิตร

มาถึงแอคคอร์ดใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรกันบ้าง บอกได้เลยว่า รุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรนี้มาแบบจัดเต็ม เรียกว่าออปชั่น มือ เท้า เข่า ศอก มีเท่าไหร่ประเคนใส่เข้าไปในรุ่นนี้เต็มที่ เพื่อที่จะได้ไปแข่งกับโตโยต้า คัมรี่ ที่เป็นเครื่องยนต์ไฮบริด ได้แบบที่เซลส์ฮอนด้าพอจะหาจุดขายไปบอกลูกค้าได้บ้าง เพราะถ้าจะพูดถึงเทคโนโลยี คงแพ้เทคโนโลยีไฮบริดหลุดลุ่ย

เอ้า... มาว่ากันที่สมรรถนะเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร 174 แรงม้า และแรงบิดที่ 225 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 4,000 รอบต่อนาทีกันบ้าง เครื่องตัวนี้ให้อัตราเร่งที่ดีทีเดียว ปรู๊ดปร๊าดทันทีที่เหยียบคันเร่งไม่ต้องกลัวว่าจะอืดอาด เป็นรถที่ตอบสนองความสนุกได้อย่างดีทีเดียว

แถมยังมีออปชั่นให้ผู้ขับเปลี่ยนเกียร์เองในแบบสปอร์ตอีกด้วย โดยมีแป้นเปลี่ยนเกียร์ด้านหลังพวงมาลัยให้ผู้ขับได้สนุกกับการขับกันอย่างเต็มอารมณ์ไปเลย ซึ่งผมว่าแค่การคิกดาวน์เรียกรอบเครื่องยนต์ในตำแหน่งเกียร์ D ปกติ หลังก็ติดเบาะแล้วครับ

ช่วงล่างนิสัยเดียวกับรุ่น 2.0 ลิตรครับ แต่ยางใหญ่ขึ้นมาหน่อยเลยทำให้รู้สึกว่าหนึบมากขึ้น และแน่นอนครับช่วงล่างเอาม้าทั้ง 174 ตัวอยู่แน่นอน

ส่วนออปชั่นที่อัดมาในรุ่น 2.4 นี้ ก็มาตั้งแต่จอแอลอีดีพร้อมเครื่องเล่นดีวีดี หลังคาซันรูฟ กระจกมองข้างแบบมีกล้องมองข้างที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการมองให้กับผู้ขับขี่ เมื่อผู้ขับเปิดสัญญาณเลี้ยวซ้าย จอภาพจะแสดงภาพด้านข้างรถให้เห็นทันที และเป็นภาพในมุมที่กว้างกว่ามองจากกระจกข้างด้วย และมีกล้องมองหลัง

นอกจากนี้ ยังมีระบบเตือนการชนด้านหน้าด้วยเรดาห์พร้อมระบบช่วยเบรก ซึ่งระบบนี้จะมีไฟกะพริบเตือนเมื่อรถของเราเข้าใกล้รถคันหน้า และหากยังคงใกล้มากขึ้นระบบคอมพิวเตอร์จะช่วยเบรกให้ระดับหนึ่ง ซึ่งเพียงพอที่จะให้ผู้ขับขี่ชะลอความเร็วและหันมาเบรกด้วยตัวเอง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน

ถามว่าขับดีมั้ย บอกได้เลยว่าขับดีครับ แต่กับราคาที่ 1.54-1.799 ล้านบาทนั้น ผมว่าแพงไปครับ โดยเฉพาะรุ่นแตะ 1.8 ล้านบาทนั้น เกือบซื้อรถยุโรปได้แล้วนะครับ