ไทยรี สร้างนักคณิตศาสตร์ประกันภัน
โดย...วารุณี อินวันนา
โดย...วารุณี อินวันนา
การขาดแคลนนักคณิตศาสตร์ประกันภัยของธุรกิจประกันภัยไทย ยังถือว่าอยู่ในขั้นที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากรัฐบาลได้ออกกฎหมายใหม่ให้ภายใน 10 ปี บริษัทด้านการลงทุนต่างๆ ต้องมีนักคณิตศาสตร์ประกันภัยระดับ “เฟลโลว์” (Fellow) ซึ่งต้องผ่านการสอบทั้งหมด 10 ขั้น
ทุกวันนี้บริษัทประกันภัยที่มีทุนน้อยใช้บริการนักคณิตศาสตร์ประกันภัยจากบริษัท ทีอาร์ แอคชัวเรียล แอนด์ คอนซัลติ้ง เซอร์วิสเซส ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาที่บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ (ไทยรี) ได้จัดตั้งขึ้นมา
ปัจจุบันนักคณิตศาสตร์ประกันภัยของไทยมีอยู่เพียง 4 คน ซึ่งมีเพียงพอกับความต้องการ จึงได้มีการนำเข้านักคณิตศาสตร์ประกันภัยจากต่างประเทศ อาทิ ปากีสถาน อินเดีย และฮ่องกง เป็นต้น
จากความต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ที่ยังมีอยู่สูงมาก ทำให้ ไทยรี คิดจะเพิ่มจำนวนบุคลากรให้มากขึ้น
สุรชัย ศิริวัลลภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยรี กล่าวว่า บริษัท ทีอาร์ แอคชัวเรียล แอนด์ คอนซัลติ้ง เซอร์วิสเซส กำลังปั้นนักคณิตศาสตร์ประกันภัย 5 คน เพื่อเพิ่มเป็น 89 คน แยกเป็น นักคณิตศาสตร์ประกันภัยธุรกิจประกันชีวิต 2 คน และนักคณิตศาสตร์ประกันภัยธุรกิจประกันวินาศภัย 3-4 คน เพื่อให้บริการที่ปรึกษาแก่บริษัทประกันวินาศภัยที่ไม่มีทุนในการสร้างด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ เชื่อว่านักคณิตศาสตร์ประกันภัยจะเป็นที่ต้องการจำนวนมากในอนาคต เพราะกฎหมายประกันภัยกำหนดให้นักคณิตศาสตร์เป็นผู้เซ็นรับรองงบการเงิน เงินสำรองของบริษัทประกันภัย และเงินสำรองสำหรับพนักงานที่เกษียณ จะต้องผ่านการตรวจสอบโดยนักคณิตศาสตร์ประกันภัยที่ให้บริการมา 2 ปี มีลูกค้าประมาณ 10 บริษัท แต่รายได้ยังน้อยเพราะเพิ่งเริ่มต้น
ขณะที่ไทยยังขาดแคลนนักคณิตศาสตร์ประกันภัย เพราะสร้างยากมากและต้องใช้เงินทุนในการสร้างถึง 10 ล้านบาทต่อ 1 คน และอย่างน้อยต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี จึงเชื่อว่าบริษัทประกันภัยขนาดเล็กจะหันมาใช้บริการจากบริษัทเพิ่มขึ้นในอนาคต
“เราไม่กลัวถูกซื้อตัว หรือเขาจะลาออกไปทำงานกับบริษัทอื่น เพราะถ้าคิดจะซื้อตัวหรือออกไปอยู่บริษัทอื่นต้องจ่ายเรามา 20 ล้านบาท” สุรชัย กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทสร้างนักคณิตศาสตร์ประกันภัย จากการว่าจ้างคนที่จบปริญญาตรี สาขาวิศวะ เกรดเฉลี่ยต้อง 3.5 ขึ้นไป ให้เข้ามาเรียนอย่างเดียวและสอบ ซึ่งจะต้องสอบให้ได้ 9 วิชา จึงจะได้เป็นนักคณิตศาสตร์ระดับสมาชิกเฟลโลว์ ซึ่งสามารถทำงานได้ทั่วโลกและส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศเพื่อหาประสบการณ์สูงขึ้น จะได้สอบวิชาที่ 79 ได้ง่ายขึ้น ซึ่งในอีก 3 ปีข้างหน้าจะมีนักคณิตศาสตร์เพิ่มขึ้นอีก 5 คน
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ปิดบริษัทย่อยชื่อ เฟิร์สเทค โซลูชั่นส์ ที่ให้บริการงานหลังบ้าน เช่น ระบบบัญชี ระบบคอมพิวเตอร์ การเงิน เพราะไม่เป็นที่นิยมของบริษัทประกันภัย แม้ว่าจะทำให้ต้นทุนต่ำกว่าที่ทำเอง แต่เนื่องจากผู้บริหารยังไม่เปิดใจรับกับบริการดังกล่าวเพราะกลัวจะเห็นข้อมูลของบริษัท แตกต่างจากต่างประเทศที่จะนิยมใช้บริษัทรับจ้างบริหารเข้าไปดูแล
“4 บริษัทย่อยทำรายได้ให้เราในปีที่ผ่านมา 170 ล้านบาท หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วมีกำไรสุทธิ 40 ล้านบาท โดยเฉพาะบริษัท อีเอ็มซีเอส ไทย ที่ให้บริการเคลมสินไหมรถยนต์และเคลมสินไหมสุขภาพทำรายได้ดีที่สุด” สุรชัย กล่าว


