posttoday

ผลสอบ ธปท. ไอแบงก์ปล่อยกู้พิสดาร

18 มีนาคม 2556

รายงานการตรวจสอบผลการดำเนินงานของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) งวดวันที่ 31 มี.ค. 2555 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้พบความผิดปกติในการปล่อยกู้ดังนี้

รายงานการตรวจสอบผลการดำเนินงานของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) งวดวันที่ 31 มี.ค. 2555 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้พบความผิดปกติในการปล่อยกู้ดังนี้

ข้อมูลล่าสุดพบว่า ไอแบงก์มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) สูงถึง 3.9 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 32% ของสินเชื่อรวม

ธปท.ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีลูกหนี้จำนวน 32 ราย มียอดหนี้รวม 13,667 ล้านบาท ที่ธนาคารจัดชั้นให้เป็นลูกหนี้ปกติ แต่จากการตรวจสอบของ ธปท.พบว่า น่าจะเข้าข่ายเป็นหนี้เอ็นพีแอล เช่น บริษัท ขอนแก่นเจริญทาวเวอร์ มียอดหนี้ 671 ล้านบาท บริษัท เมืองสมุย มียอดหนี้ 727 ล้านบาท

บริษัท ดร็อปอินสมุย มียอดหนี้ 139 ล้านบาท บริษัท รัชโยธิน ไพรม์ เอสเตท มียอดหนี้ 546 ล้านบาท

บริษัท จี เอ็ม ดับเบิ้ลยู เวนเจอร์ มียอดการกู้เงิน 275 ล้านบาท บริษัท เมจิก โมเดิร์น มียอดหนี้ 1,352 ล้านบาท บริษัท บุญบารมีเมตตา พร็อพเพอร์ตี้ มียอดหนี้ในขณะนี้ 1,220 ล้านบาท

บริษัท ภูเก็ต การ์เด้น คลิฟ มียอดหนี้ 689 ล้านบาท

ธปท.ยังระบุว่า จากการสุ่มตรวจของ ธปท. พบความผิดปกติในการให้สินเชื่อของธนาคารแห่งนี้ในหลายกรณีที่นำมาซึ่งความเสียหายให้กับธนาคาร

ทั้งนี้ ธปท.พบว่า ลูกหนี้มีการโอนเงินกู้ที่ขอเบิกสินเชื่อจากธนาคารบางส่วนไปเข้าบัญชีเงินฝากของนิติบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องทางธุรกิจกับลูกหนี้ จึงได้ตั้งข้อสังเกตว่าลูกหนี้ไม่ได้นำเงินสินเชื่อที่ได้รับไปดำเนินธุรกิจ

ธปท.ได้จำแนกการปล่อยกู้ให้กับลูกค้าออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อดำเนินการตรวจสอบใน 3 ลักษณะ

กลุ่มแรก เป็นบริษัทที่อยู่ระหว่างตรวจสอบในเชิงลึกเพื่อหาการเชื่อมโยงของเส้นทางการเงินในการโยกย้ายถ่ายเท ประกอบด้วย บริษัท ภูเก็ต การ์เด้น คลิฟ ที่มียอดหนี้ 689 ล้านบาท

บริษัท พานทองเปเปอร์ มียอดหนี้ 400 ล้านบาท บริษัท เอส.โอ.จี.กรุ๊ป มียอดหนี้ 350 ล้านบาท

บริษัท ซันนี่ แอร์เวย์ส ยอดเงินกู้ 60 ล้านบาท ห้างหุ้นส่วนจำกัด เดชาเจริญกิจ ยอดเงินกู้ 494 ล้านบาท

กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มลูกหนี้ที่ธนาคารปล่อยกู้ไปแล้วจากการตรวจสอบแล้วเข้าข่ายการใช้เงินกู้ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบในทางลึก

ประกอบด้วย บริษัท ท้าพิสูจน์ อินเตอร์เนชั่นแนล ยอดเงินกู้ 181 ล้านบาท บริษัท เส้นหมี่ เพชรบุรี อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งมียอดหนี้รวม 277 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่ามีการสั่งจ่ายเช็คเงินสด 1 แสนบาท ให้กับเจ้าหน้าที่สินเชื่อที่มีส่วนในการรับเรื่องการพิจารณาขออนุมัติสินเชื่อด้วย

กลุ่มที่สาม มีพฤติกรรมการปล่อยเงินกู้ให้กับลูกหนี้เพื่อนำมาซื้อหุ้นบริษัทที่มีหนี้เสีย ซึ่งต้องมีการตรวจสอบการเชื่อมโยงของกลุ่มลูกหนี้

ประกอบด้วย การให้สินเชื่อแก่บริษัท สุขุมวิท 33 ดีเวลลอปเม้นท์ ที่สูงถึง 1,191 ล้านบาท เพื่อนำเงินกู้ไปซื้อหุ้นของบริษัท พรีมา แอสเซท โฮลดิ้ง และปล่อยกู้ให้บริษัทรายหนึ่งในจำนวน 1,150 ล้านบาท เพื่อนำเงินกู้ไปซื้อหุ้นของบริษัท ลาคริสทาวเวอร์ ซึ่งกำลังดูว่ามีปัญหาหรือไม่

ขณะเดียวกันยังพบว่า มีการให้สินเชื่อเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่สูงกว่าราคาซื้อจริง และปัจจุบันถูกจัดชั้นเป็นหนี้เอ็นพีแอลแล้ว คือ บริษัท อินโนวา ออโต้ มีหนี้เสีย 475 ล้านบาท บริษัท ทองวงแหวน เซอร์วิส มีหนี้เสีย 217 ล้านบาท และบริษัท คอสมิก แม็กนัม มีหนี้เสีย 430 ล้านบาท

นอกจากนี้ ธปท.ยังพบว่า ธนาคารแห่งนี้มีการปล่อยสินเชื่อให้แก่โครงการที่ขาดแผนงานที่ชัดเจน และกำลังให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ เช่น บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ มียอดหนี้ทั้งสิ้น 1,250 ล้านบาท บริษัท ปัตตานี จายา โฮลดิ้ง วงเงินปล่อยกู้ 491 ล้านบาท บริษัท พริซึ่ม เอสเตทส์ (ประเทศไทย) ยอดปล่อยกู้ทั้งสิ้น 377 ล้านบาท

ธานินทร์ อังสุวรังษี ผู้จัดการไอแบงก์ ยอมรับกับโพสต์ทูเดย์ว่า หากดูสัดส่วนของหนี้เสียที่เกิดขึ้นจำนวนมากส่วนใหญ่จะเป็นรายใหญ่ ในเบื้องต้นมีไม่ต่ำกว่า 100 บริษัท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งสอบสวน

“สิ่งที่รับไม่ได้คือมีการทุจริต มีการเรียกเงินปากถุงในการปล่อยกู้ของพนักงานและผู้บริหาร ต่อจากนี้ขอยืนยันว่าจะไม่มีคอร์รัปชัน ต้องโปร่งใส หากพบทุจริต ผมจะไม่เอาไว้ ไม่ว่าใครทั้งสิ้น” ธานินทร์ ยืนยัน

หลังจากนี้ไปคงต้องติดตามการจัดการในธนาคารแห่งนี้กันอย่างไม่กะพริบ

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้