อินโดฯเตรียมอนุมัตินำเข้าผักผลไม้หลายรายการ
ผู้ส่งออกไทยเตรียมรับข่าวดี รัฐบาลอินโดนีเซียอนุมัติโควตานำเข้าสินค้าผักผลไม้หลายรายการ พร้อมเดินหน้าทวงตลาดผักผลไม้คืน
ผู้ส่งออกไทยเตรียมรับข่าวดี รัฐบาลอินโดนีเซียอนุมัติโควตานำเข้าสินค้าผักผลไม้หลายรายการ พร้อมเดินหน้าทวงตลาดผักผลไม้คืน
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดคณะเดินทางไปเจรจาหารือกับหน่วยงานกระทรวงการค้าและกระทรวงเกษตรของอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 24 – 27 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อแก้ไขปัญหาและผลักดันการส่งออกผักผลไม้ของไทยไปยังอินโดนีเซียอย่างเร่งด่วน หลังจากที่รัฐบาลอินโดนีเซียได้ประกาศใช้มาตรการควบคุมการนำเข้าผัก ผลไม้ เช่น หอมแดง ลำไย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุเรียนสดซึ่งอยู่ในข่ายสินค้า 13 รายการที่ถูกระงับการนำเข้าในช่วงครึ่งปีแรก คือ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายนปีนี้ ซึ่งอินโดนีเซียอ้างว่าเป็นการปกป้องเกษตรกรและพยุงราคาสินค้าเกษตรภายในประเทศ ทำให้ผู้ส่งออกและเกษตรกรไทยได้รับความเดือดร้อนและเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากอินโดนีเซียเป็นตลาดหลักในการส่งออกผักและผลไม้ของไทย
จากการพบปะหารือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงในเรื่องการออกมาตรการนำเข้าดังกล่าวได้รับการชี้แจงในเบื้องต้นว่า เร็ว ๆ นี้ กระทรวงเกษตรอินโดนีเซียจะประกาศผลการพิจารณาอนุมัติโควตาให้แก่ผู้นำเข้าอินโดนีเซียที่ยื่นขอโควตาเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งไทยจะได้รับการจัดสรรโควตานำเข้าสินค้าหอมแดงและลำไยอย่างแน่นอน จึงขอให้ผู้ประกอบการไทยเร่งเตรียมความพร้อมสำหรับการส่งออกโดยเฉพาะหอมแดง แต่ทุเรียนสด มีความจำเป็นต้องควบคุมการนำเข้าเป็นการชั่วคราว เนื่องจากเป็นช่วงที่ทุเรียนอินโดนีเซียซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลผลิตจากเมืองเมดานและบาหลีกำลังออกสู่ตลาด
อย่างไรก็ตาม นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ จะหยิบยกประเด็นปัญหาการส่งออกทุเรียนของไทยขึ้นหารือระดับทวิภาคีกับรัฐมนตรีการค้าของอินโดนีเซียอีกครั้งในการประชุมรัฐมนตรีการค้าอาเซียนที่ประเทศเวียดนามในสัปดาห์หน้า เพื่อขอให้พิจารณาให้โควตานำเข้าทุเรียนจากไทยในช่วงนี้และในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากทุเรียนจากภาคตะวันออกของไทยใกล้จะออกสู่ตลาดในช่วงเมษายนถึงมิถุนายน และเป็นที่ทราบกันดีว่าทุเรียนหมอนทองของไทยเป็นที่นิยมและยอมรับอย่างกว้างขวางของผู้บริโภคชาวอินโดนีเซียเพราะมีคุณภาพและรสชาติดี ในขณะที่ผลผลิตทุเรียนของอินโดนีเซียก็จะเริ่มลดลงตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ จึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดภายในของอินโดนีเซีย
นอกจากการส่งออกทุเรียนสด ผู้ประกอบการไทยอาจหันมาส่งออกทุเรียนแปรรูปมากขึ้น เนื่องจากไม่ได้อยู่ในข่ายที่ถูกระงับการนำเข้า เช่น ทุเรียนแช่แข็ง ทุเรียนกวน หรือทุเรียนทอด ซึ่งนอกจากจะลดความเสียหายจากการเน่าเสีย แล้วยังสามารถยืดอายุสินค้าได้อีกด้วย ถือเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นทั้งนี้ เกษตรกรและผู้ส่งออกไทยจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังและคำนึงถึงคุณภาพและมาตรฐานสินค้า ตลอดจนความปลอดภัยทั้งด้านสุขอนามัย รวมทั้งโรคพืชด้วย เพราะหากเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นก็อาจจะส่งผลต่อการพิจารณาให้โควตาหรือระงับการนำเข้าได้ในอนาคต
ทั้งนี้ ในปี 2555 ไทยส่งออกหอมแดงไปอินโดนีเซีย 36,972.56 ตัน มูลค่า 417.25 ล้านบาท ส่งออกลำไยไปอินโดนีเซียมากถึง 119,695 ตัน มูลค่า 2,677.1 ล้านบาท และส่งออกทุเรียนสดไปอินโดนีเซีย 18,083 ตัน มูลค่า 424.0 ล้านบาท


