เออีซีบูมเขตเศรษฐกิจชายแดน

เออีซี ดันราคาที่ดิน เขตเศรษฐกิจชายแดนพุ่ง 20-40%

การเตรียมพร้อมรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ในปี 2558 ทำให้ราคาที่ดินพื้นที่ด่านการค้าชายแดนต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น 20-40 % โดยเฉพาะด่านแม่สอด จ.ตาก ซึ่งกำลังเตรียมจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนด้านตะวันตก เชื่อมโยงการค้ากับประเทศพม่าและอ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 4 จะเปิดใช้ในเดือนมิ.ย.นี้ และในอนาคตจะจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเชื่อมโยงการค้ากับจีนและลาว

นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์  นายกเทศมนตรีนครแม่สอด จังหวัดตาก กล่าวว่า หากการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดเกิดเป็นรูปธรรม จะทำให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้นอีกหลายหมื่นล้านบาท  โดยขณะนี้นครแม่สอด  มีการลงทุนสร้างโรงแรมที่พัก เพิ่มขึ้นกว่า 20-30 แห่ง ห้างเทสโก้ โลตัส  ก็เปิดสาขาซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนสายเอเชีย แม่สอด-ริมเมย ชายแดนไทย-พม่า เมื่อต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อบริการชาวไทยและพม่าที่เดินทางเข้ามาซื้อสินค้ามากขึ้น

ขณะที่นายวิษณุ  ธันวรักษ์กิจ เจ้าพนักงานที่ดิน จ.เชียงราย  กล่าวว่า ในอนาคตเมื่อมีการเปิดประตูสู่เออีซี คงจะมีความพยายามเข้าไปถือครองที่ดินกันเพิ่มมากขึ้น ขณะที่จำนวนที่ดินมีจำกัดอยู่แล้ว โดยเฉพาะ อ.เชียงแสน และอ.เชียงของ ซึ่งเป็นเมืองท่าและสะพานแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 พบว่าราคาประเมินมีการปรับตัวสูงขึ้น 10-20 % 

“ราคาที่ดินที่ยังสูงและเพิ่มสูงขึ้นคือบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก ต.เวียง อ.เชียงแสน แต่ปัจจุบันยังมีที่ดินปฏิรูปเพื่อการเกษตร(สปก.) อยู่อีกหลายพื้นที่ หากมีการยกเลิกบางจุด ก็จะทำให้มีที่ดินที่สามารถออกโฉนดเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่”นายวิษณุกล่าว

การพัฒนาพื้นที่จุดผ่านแดนซึ่งเป็นด่านการค้าสำคัญ ยังส่งผลต่อราคาประเมินที่ดินในพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย นายสุรเดช  บุญนวล    ที่ดินจังหวัดน่าน กล่าวว่า ที่อำเภอปัว ที่ดินติดถนนสายปัว-เชียงกลาง เป็นสายหลักไปสู่ชายแดน  นักลงทุนให้ความสนใจเพื่อรองรับการเข้าสู่เออีซีทำให้ราคาประเมินที่ดินสูงขึ้น 10-20 % ซื้อขายประมาณไร่ละ 3-5 ล้านบาท โดยนักลงทุนเล็งพื้นที่ทำเพื่อธุรกิจโรงแรม เกสเฮ้าส์ และรีสอร์ท

ด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายอนุกูล  ตังคณานุกูลชัย ผวจ.นครพนม กล่าวว่า ปัจจุบันนครพนมเป็นเป้าหมายสำคัญในการลงทุนของกลุ่มธุรกิจ การค้าชายแดน  2 ปีหลังเปิดสะพานไทย-ลาว ตัวเลขเศรษฐกิจนครพนม  เพิ่มขึ้นเท่าตัว จากปีละ 5,000 ล้านบาท เป็น 10,000 – 15,000 ล้านบาท  

“ได้จัดสรรงบประมาณ 60  ล้าน  เพื่อสร้างศูนย์ปลดปล่อยสินค้า ในพื้นที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง สะพานมิตรภาพ เนื้อที่ประมาณ 85  เป็นจุดรองรั และพักสินค้า ก่อนการขนย้ายนำเข้าและส่งออก  จะแล้วเสร็จในปีนี้”นายอนุกูลกล่าว

สำหรับที่ภาคใต้ ราคาที่ดินในพื้นที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาประตูการค้าสู่มาเลเซียก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากเช่นกันนายพรชัย  บุญช่วย  หัวหน้าฝ่ายทะเบียน สำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ราคาที่ดินช่วง 2 ปีที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นถึง 30 % โดยเฉพาะในพื้นที่อ.หาดใหญ่ นาทวี และอำเภอสะเดา จากธุรกิจโครงการอสังหาริมทรัพย์ และการเปิดด่านชายแดนแห่งใหม่

นายสุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้าสงขลากล่าวว่า ทิศทางการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์สงขลามีทิศทางที่ดี จากการเปิดเออีซี และจังหวัดสงขลาจะมีโครงการสร้างด่านสะเดาแห่งใหม่ โครงการถนนมอเตอร์เวย์สะเดา-หาดใหญ่ ทางรถไฟรางคู่และรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากรุงเทพฯมาถึงปาดังเบซาร์

ทั้งนี้ราคาที่ดินในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ บางแห่งราคาประเมินสูงถึงไร่ละ 160 ล้านบาท

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างจังหวัดปีนี้ จะขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรืออีสาน เช่น ขอนแก่น อุดรธานี และเขาใหญ่-นครราชสีมา จะกลายเป็นตลาดที่ร้อนแรงที่สุด โดยการขยายตัวส่วนใหญ่ เกิดจากกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลาง เช่น แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ พฤกษา แสนสิริ เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ควอลิตี้ เฮ้าส์ เข้าไปลงทุน

ทั้งนี้ รูปแบบโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม จะกลายเป็นสินค้าเรือธงของผู้ประกอบการในการบุกตลาดต่างจังหวัด หลังจากมองเห็นพฤติกรรมผู้บริโภคต่างจังหวัดเปลี่ยนไป ยอมรับการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม อีกทั้ง ตลาดเมืองมหาวิทยาลัย เช่น ขอนแก่น ยังมีความต้องการจากคนต่างถิ่น หรืออุดรธานี มีความต้องการจากนักลงทุนฝั่งลาว เป็นต้น

รายงานจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์แจ้งว่า การที่ธุรกิจอสังหาฯในต่างจังหวัดขยายตัวมาก ส่งผลให้ราคาที่ดินปรับตัวเร็วและแรงเกินไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาด ทำให้เกิดการเก็งกำไร และอาจเกิดภาวะฟองสบู่ราคาที่ดินได้