posttoday

การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี 2555

25 มกราคม 2556

การยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษี สามารถยื่นแบบเสียภาษีได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทุกแห่ง ท่านใดที่มีรายการลดหย่อนและยกเว้นภาษีหลายรายการ การคิดคำนวณภาษีต้องรอบคอบสักหน่อยจะได้ไม่ผิดพลาด หากยื่นแบบเสียภาษีผ่าน www.rd.go.th โปรแกรมจะช่วยคิดคำนวณภาษีให้ โอกาสคำนวณผิดพลาดไม่มี เว้นแต่กรอกข้อมูลไม่ถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ถูกต้องไปด้วย

การยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษี สามารถยื่นแบบเสียภาษีได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทุกแห่ง ท่านใดที่มีรายการลดหย่อนและยกเว้นภาษีหลายรายการ การคิดคำนวณภาษีต้องรอบคอบสักหน่อยจะได้ไม่ผิดพลาด หากยื่นแบบเสียภาษีผ่าน www.rd.go.th โปรแกรมจะช่วยคิดคำนวณภาษีให้ โอกาสคำนวณผิดพลาดไม่มี เว้นแต่กรอกข้อมูลไม่ถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ถูกต้องไปด้วย

วิธีการคิดคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษี มี 2 วิธี สรุปได้ดังนี้

วิธีที่ 1 การคำนวณภาษีจากฐานเงินได้สุทธิ ตามมาตรา 48(1) แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดให้ผู้เสียภาษีนำเงินได้พึงประเมินทุกประเภท (เงินได้ฯ มาตรา 40(1)–(8) แห่งประมวลรัษฎากร) ที่ได้รับทั้งปี หักออกด้วย ค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน เหลือเท่าใด เป็นเงินได้สุทธิ แล้วให้นำเงินได้สุทธิไปคำนวณภาษีตามบัญชีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะได้จำนวนภาษีต้องชำระ สำหรับปีภาษี 2555 ยังคงจัดเก็บภาษีในอัตราเดิม ทั้งนี้ เงินได้สุทธิ 150,000 บาทแรก ได้รับยกเว้นภาษี อัตราร้อยละ 10 สำหรับเงินได้สุทธิที่เกินกว่า 150,000 บาท แต่ไม่เกิน 500,000 บาท ร้อยละ 20 สำหรับเงินได้สุทธิที่เกินกว่า 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท ร้อยละ 30 สำหรับเงินได้สุทธิที่เกินกว่า 1,000,000 บาท แต่ไม่เกิน 4,000,000 บาท และร้อยละ 37 สำหรับเงินได้สุทธิที่เกินกว่า 4,000,000 บาทขึ้นไป

วิธีที่ 2 การคำนวณภาษีจากฐานเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 48(2) แห่งประมวลรัษฎากร

กำหนดให้ผู้เสียภาษีที่มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(2)(8) แห่งประมวลรัษฎากรเกินกว่า 60,000 บาทขึ้นไป นำเงินได้พึงประเมิน (ยังไม่ได้หักรายจ่ายใดๆ) ที่ได้รับในปีภาษี ไปคำนวณภาษีในอัตราร้อยละ 0.50 จะได้จำนวนภาษีต้องชำระ หากคำนวณแล้วมีจำนวนภาษีต้องชำระไม่เกิน 5,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษีวิธีนี้ การคำนวณวิธีนี้จะเสียภาษีต่อเมื่อมีเงินได้พึงประเมินเกินกว่า 1 ล้านบาทขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม ผู้เสียภาษียังคงต้องนำเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(2)(8) แห่งประมวลรัษฎากรไปคิดคำนวณภาษีตามวิธีที่ 1 แล้วนำภาษีต้องชำระมาเปรียบเทียบกับภาษีต้องชำระในวิธีที่ 2 วิธีใดจำนวนภาษีต้องชำระมากกว่า ให้ชำระภาษีตามวิธีนั้น

ในปีภาษี 2555 การยื่นรายการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของสามีและภรรยาที่มีเงินได้พึงประเมินทั้งคู่ แต่ละฝ่ายสามารถแยกยื่นแบบเสียภาษีในนามของตนเองได้ หรือนำเงินได้พึงประเมินทั้งหมด หรือนำเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(2)(8) แห่งประมวลรัษฎากรไปรวมคำนวณภาษีกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ แต่ก็ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เหตุที่ให้สิทธิแก่สามีและภรรยาในการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัย ที่ 17/2555 ว่า มาตรา 57 ตรี และมาตรา 57 เบญจ แห่งประมวลรัษฎากร จำกัดสิทธิสามีและภรรยาในการยื่นรายการและเสียภาษี ไม่ส่งเสริมความเสมอภาคของชายและหญิง ขัดหรือแย้งต่อมาตรา 30 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บทบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นอันใช้บังคับมิได้ตามมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทำให้มีความจำเป็นต้องกำหนดหลักเกณฑ์ในการเสียภาษีเงินได้และการยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินของผู้มีเงินได้ที่เป็นสามีและภรรยาขึ้นใหม่บางประการ

คงทราบกันแล้วเกี่ยวกับวิธีการคิดคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษี สัปดาห์หน้ามาดูเรื่องการหักค่าใช้จ่ายของเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(2)(8) แห่งประมวลรัษฎากร ว่าแต่ละประเภทเงินได้พึงประเมินหักค่าใช้จ่ายได้หรือไม่ อย่างไร

สวัสดีครับ

ข่าวล่าสุด

กต.ชี้ กัมพูชาปิดด่านห้ามคนไทยกลับประเทศขัดกฎหมายระหว่างประเทศ