หวั่นตรึงแอลพีจีทำยอดใช้พุ่งต่อเนื่อง

กรมธุรกิจพลังงานหวั่นยอดใช้แอลพีจียังโตต่อเนื่องหากไม่ขยับราคา ส่งผลให้ยอดนำเข้าปี 56 ทะลักเดือนละ1.7 แสนตัน

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำมันเชื้อเพลิงปี 2555 ว่า ภาพรวมการใช้ก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ปี 2555 เฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 6.05 แสนตัน เพิ่มขึ้น 11% เทียบกับปี2554 โดยการใช้เพิ่มขึ้นทุกประเภท ยกเว้นภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง  และหากยังไม่มีการปรับขึ้นราคาจะทำให้การนำเข้าแอลพีจีสูงขึ้นไปถึงเดือนละ 1.7 แสนตัน จากปัจจุบันที่นำเข้าอยู่เดือนละ 1.46 แสนตัน ในขณะที่ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา(2551-ปัจจุบัน)รัฐต้องชดเชยการนำเข้าแอลพีจีไปแล้ว 9.54 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ การใช้แอลพีจีในภาคขนส่งมีการขยายตัวมากที่สุด 15% แม้จะมีการทยอยปรับราคาเดือนละ 75 ส.ต./ก.ก. ไป 4 ครั้ง รวม 3 บาท/ก.ก. แต่หลังจากคงราคาไว้ที่ 21.13บาท/ก.ก. ทำให้การใช้ยังอยู่ในระดับที่สูง  ส่วนการใช้แอลพีจีครัวเรือนและปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น 14% เท่ากัน ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมลดลง 14%   หลังจากมีมติปรับขึ้นราคาให้สะท้อนต้นทุนหน้าโรงกลั่น

สำหรับการนำเข้าแอลพีจีปี 2555 มีจำนวนทั้งสิ้น 1.7 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ารวม 5.3 หมื่นตัน หรือ 1.46 แสนตัน/เดือน ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน 2.4 หมื่นตัน/เดือน ซึ่งการนำเข้าที่สูงขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการหยุดซ่อมบำรุงของโรงแยกก๊าซและโรงกลั่นน้ำมันรวมถึงอัตราการใช้ที่เพิ่มขึ้น  โดยรัฐต้องจ่ายเงินชดเชยการนำเข้าแอลพีจีกว่า 3.2 หมื่นล้านบาท และในช่วง5ปีที่ผ่านนับตั้งแต่มีการนำเข้าแอลพีจีเมื่อปี 2551 ต้องจ่ายเงินชดเชยนำเข้ารวม 9.54 หมื่นล้านบาท 

ในด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ในภาพรวมปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2554  โดยกลุ่มเบนซินมีการใช้อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 20.8 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 3.5% ขณะที่ ดีเซลการใช้อยู่ที่ 55.8  ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 6.2% เนื่องจากรัฐบาลยังใช้นโยบายคงราคาไม่เกินลิตรละ30 บาท สำหรับภาพรวมการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงของปี 2555  อยู่ที่ 8.53  แสนบาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับที่สูง