ลอง"บริโอ้ ซีดาน(AMAZE)ขับสนุก-ภายในใหญ่

โดย...นิธิ ท้วมประถม

น่าสนุกทีเดียวครับ สำหรับตลาดรถยนต์ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ แม้ว่าค่ายรถยนต์ทั้งหลายจะอิ่มจนจุกกับยอดจองรถยนต์ทั้งรถยนต์นั่งขนาดเล็ก และรถกระบะ กันแบบที่ต้องรอคิวกันข้ามปี จากนโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรก ที่จะสิ้นสุดในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้แล้ว

ล่าสุด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ที่บอบช้ำจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ก็ตัดสินใจเปิดตัว ฮอนด้า บริโอ้ ซีดาน หรือรุ่น 4 ประตู ที่ฮอนด้า ประกาศชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการแล้วว่าชื่อ ฮอนด้า AMAZE (อเมซ) ในวันที่ 23 พ.ย.นี้ เพื่ออาศัยช่วงเวลาที่นโยบายคืนภาษีรถคันแรกยังเหลืออีก 1 เดือน สร้างยอดจองให้ได้มากที่สุดให้ได้

ผมเอง มีโอกาสได้ลองขับ เจ้าฮอนด้า อเมซ ไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่เป็นรุ่นที่ยังปิดหน้าปิดตา ทำลายพราง ไม่ให้เห็นหน้าค่าตาจริงๆ รวมถึงภายในก็ยังไม่ได้สมบูรณ์ 100% ก็แหม ฮอนด้า เค้ายังไม่เปิดตัวเจ้า ฮอนด้า อเมซ อย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย จะมาให้พวกผมเห็นตัวจริงได้ยังไง

ส่วนตัวแล้ว ผมเองก็อยากลองขับและสัมผัสกับฮอนด้า อเมซ ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะหลังจากที่เคยขับฮอนด้า บริโอ้ อีโคคาร์ รุ่นแรกของฮอนด้าไปแล้ว ก็อยากรู้ว่าฮอนด้า อเมซ 4 ประตู นั้นถูกปรับปรุงอะไรขึ้นมาบ้าง

ก็จะไม่อยากให้เห็นได้ยังไงละครับฮอนด้า บริโอ้ ที่เปิดตัวออกมานั้น สร้างความฮือฮาเหลือเกิน ทั้งฮือฮาในทางบวกและทางลบ ซึ่งทางบวกนั้นคือ เรื่องของเครื่องยนต์และช่วงล่างที่ต้องยกนิ้วให้ แต่เสียงฮือฮาในทางลบนั้นดังกว่า ทั้งในเรื่องของวัสดุตกแต่งภายในที่ดูราคาถูกไปหน่อย รวมถึงอุปกรณ์พื้นฐานต่างๆ ที่ขาดหายไป อย่างเช่น ใบปัดน้ำฝนหลัง ทำให้ฮอนด้า บริโอ้ ถูกอีโคคาร์ค่ายอื่นตีกินไปไม่น้อย

แต่ไม่เป็นไรครับ ถือว่าผิดเป็นครู ซึ่งผมเชื่อว่าฮอนด้าเองก็รู้ว่าอะไรคือข้อผิดพลาดของบริโอ้ และคงจะไม่ได้เห็นในรุ่น 4 ประตู อย่างอเมซ แล้ว

ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาบนพื้นฐานแนวความคิด “Smart Micro Limousine” หรือ ขับสนุก ประหยัด และกว้างขวางสะดวกสบาย ซึ่งเป็นแนวคิดการพัฒนารถอีโคคาร์ อย่างแท้จริงครับ

ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ นั้นยังคงใช้เครื่องยนต์ตัวเดิมของฮอนด้า บริโอ้ คือเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 90 แรงม้า เหมือนเดิม ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร ที่ดีที่สุดในตลาดรถอีโคคาร์ ก็ว่าได้ ส่วนช่วงล่างนั้น ปรับสปริงให้แข็งกว่า บริโอ้ 5 ประตูนิดนึงครับ เพราะต้องรับน้ำหนักท้ายรถที่เพิ่มขึ้นมาอีก 26 กก.

ผมขอไม่พูดถึงภายนอกนะครับ เพราะมองไม่ออกครับว่าตัวจริงเสียงจริงของฮอนด้า อเมซ นั้นจะเป็นอย่างไร รบกวนท่านผู้อ่านดูจากภาพประกอบได้เลยครับ แต่เชื่อว่าไม่ขี้เหร่แน่นอน

การลองขับครั้งนี้ ทางฮอนด้า จัดขึ้นที่ สนามแก่งกระจานเซอร์กิต ที่ จ.เพชรบุรี โดนใจถึงไม่น้อยครับ ให้ขับเต็มรอบสนาม 3 รอบด้วยกัน ด้วยระยะทางขนาดนั้น และลักษณะของสนามแก่งกระจาน ที่มีโค้งโหดๆ อยู่พอสมควร ก็ทำให้รู้ถึงลักษณะของบริโอ้ อเมซ ได้พอสมควรทีเดียวครับ

ก่อนที่ก้าวไปเป็นผู้ลองขับ ผมขอเข้าไปสัมผัสห้องโดยสารเสียหน่อยว่า จะลีมูซีน อย่างที่บอกหรือเปล่า และเมื่อเข้าไปนั่งที่เบาะโดยสารตอนหลัง ก็ต้องประหลาดใจกับความกว้างของที่นั่งด้านหลังครับ กว้างขวางใช้ได้เลย

ซึ่งฝ่ายออกแบบของฮอนด้า บอกว่าตัวถังของบริโอ้ อเมซ นั้นยาวกว่าบริโอ้ 380 มิลลิเมตรทำให้ มีพื้นที่วางขาหรือ Leg Room มากขึ้น ซึ่งก็จริงครับ ผมไปลองนั่งแล้ว หัวเข่าไม่ติดกับเบาะหน้า แต่ก็ไม่ถึงกับขยับแข้งขยับขานั่งขัดสมาธิได้นะครับ แถมศีรษะก็ไม่ติดกับหลังคาหรือขอบกระจกอีกด้วย ไม่อึดอัดดีครับ เบาะนั่งก็ถูกปรับให้หนากว่าเดิมอีกหลายมิลลิเมตรครับ นั่งสบายกว่าบริโอ้ เยอะ

น่าเสียดายที่เบาะหลังของบริโอ้ อเมซ นั้นพับแบบ 60:40 ไม่ได้เหมือนกับรถยนต์นั่งขนาดเล็กอย่าง ซิตี้ ไม่อย่างนั้นละก็แจ่มเลยทีเดียว

ขณะที่ท้ายรถที่เพิ่มออกมาเป็นพื้นที่เก็บสัมภาระนั้นใหญ่ใช้ได้เลยครับ สามารถบรรจุถุงกอล์ฟได้ถึง 2 ใบ หรือมีความจุมากถึง 400 ลิตรเลยมีเดียว

กลับเข้ามานั่งประจำที่นั่งคนขับดีกว่า มานั่งพิจารณาดูว่ามีอะไรที่แตกต่างไปจากบริโอ้บ้าง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าภายในของอเมซ นั้นแทบจะเหมือนกับบริโอ้ ทุกกระเบียดนิ้ว ก็แฝดพี่แฝดน้องนี่ครับ จะให้ต่างกันมากนักก็ไม่ได้

เหมือนกระทั่งสี แผงแดชบอร์ด ที่เป็นสีน้ำตาลแสนเชย นั่นก็ยังคงเดิมอยู่ เฮ้อ...

รีบก้มลงมองที่เก็บของข้างแผงประตูว่า จะเห็นสีแผงประตูเหมือนกับบริโอ้ หรือเปล่า...โล่งอกคราวนี้ฮอนด้าคิดได้แล้วว่าต้องมีแผ่นปิดเสียหน่อยไม่ให้น่าเกลียด และในบริโอ้ก็ติดแผ่นปิดนี้ไปหมดแล้วเหมือนกันค่อยยังชั่ว

เบาะนั่งด้านหน้า ยังคงใช้เบาะแบบโฟมขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน ทำให้พนักพิงศีรษะของบริโอ้ อเมซ ไม่สามารถปรับระดับสูงต่ำได้ เพราะเป็นชิ้นเดียวกับพนักพิงหลัง ทำให้ในจุดนี้นั่งไม่ค่อยสบายเท่าไหร่

แต่หากมองในภาพรวมแล้ว ถือว่าภายในของบริโอ้ อเมซ นั้นดูดีกว่าบริโอ้ 5 ประตูครับ ผ่านเลย ใครต้องการรถข้างนอกเล็ก แต่ภายในใหญ่ ไม่น่าจะผิดหวังครับ

มาดูที่การลองขับหน่อยดีกว่าว่าบริโอ้ อเมซ นั้นจะเจ๋งอย่างไร ทันทีที่เปลี่ยนเกียร์และกดคันเร่ง เครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.2 ลิตร ที่มีม้าอยู่ 99 ตัว ก็ออกตัวได้อย่างรวดเร็วทันใจครับ และผมเชื่อว่าบริโอ้ อเมซ ยังคงเป็นรถอีโคคาร์ ที่ออกตัวได้ดีที่สุดเลยก็ว่าได้

น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาเพียง 26 กก. ไม่ได้เป็นอุปสรรคให้บริโอ้ อเมซ ขับสนุกน้อยลงกว่า บริโอ้ 5 ประตูเลย ทั้งในเรื่องของอัตราเร่ง ที่ยังทำได้เป็นอย่างดี และยังเรื่องของความหนึบของช่วงล่างที่ยังไว้ใจได้อยู่เสมอครับ

โค้งหนักๆ ของสนามแก่งกระจาน ที่ผมมองว่าขับสนุกและยากไม่น้อยทีเดียว แต่ก็ยังทำอะไร บริโอ้ อเมซ ได้ไม่ค่อยถนัดนัก ลองเข้าโค้งแรงๆ ซึ่งคิดว่าท้ายของเจ้าบริโอ้ อเมซ จะปัดออก แต่ก็ต้องแปลกใจที่ช่วงล่างยังไว้ใจได้เหมือนเดิมครับ แต่ออกจะนิ่มขึ้นนิดนึง เมื่อเทียบกับบริโอ้ 5 ประตู นั่นคงเป็นเพราะว่า ฮอนด้าต้องการให้บริโอ้ อเมซ เป็นรถยนต์สำหรับครอบครัวเล็กๆ แน่นอน

การขับในสนามครั้งนี้ทำให้ได้รู้จักบริโอ้ อเมซ แบบน้ำจิ้มๆ เท่านั้น แต่ก็พอจะรู้ว่าฮอนด้า บริโอ้ อเมซ นั้นเป็นรถอีโคคาร์ 4 ประตู ที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว ขับสนุก เล็กกะทัดรัด เหมาะกับการใช้งานในเมือง มีพื้นที่ในห้องโดยสารที่พอประมาณ อุปกรณ์ความปลอดภัยเพียบครับ ทั้งเบรกเอบีเอส และถุงลมนิรภัยครบทุกรุ่น

ราคาค่าตัวยังไม่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อว่าคงจะแพงกว่าบริโอ้ 5 ประตูไม่กี่หมื่นบาทครับ

อดใจรออีกนิด แล้วไปดูตัวจริงของบริโอ้ อเมซ ได้ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.นี้ครับ