กสิกรชี้หนี้สเปนป่วนทองช่วงสั้น

บลจ.กสิกรไทย มองหนี้สเปนกดราคาทอง แนะทยอยสะสมกองทุน K-GOLD คาดปลายปีหน้าทองแตะ 2,000 เหรียญสหรัฐ

นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า ราคาทองคำในระยะสั้นมีโอกาสอ่อนตัวลงได้อีก จากปัญหาหนี้ในยุโรปที่เริ่มกังวลปัญหาหนี้ของสเปนอีกครั้ง เนื่องจากตลาดคาดว่าสเปนจะต้องขอรับเงินช่วยเหลือจากทางธนาคารกลางยุโรป ในขณะที่สเปนยืนยันว่ายังไม่มีความจำเป็น ทำให้เกิดความไม่แน่นอน และส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงและหนุนให้เงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองคำ

นักลงทุนขายทำกำไรทองคำ หลังจากราคาปรับขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) รอบ 3 ออกมา ส่งผลให้ทองคำขึ้นไปสูงสุดที่ 1,794 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ จนเมื่อต้นสัปดาห์ลงมาต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ 1,735 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ และแม้ราคาจะขยับขึ้นบ้าง แต่ยังเคลื่อนไหวในกรอบ 1,730-1,750 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ จึงเป็นระดับที่ทยอยเข้าลงทุนได้ในกองทุนเปิดเค โกลด์ (K-GOLD)

นายวิน กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทย ยังคงเชื่อมั่นในราคาทองคำในระยะยาว เนื่องจากมองว่าค่าเงินเหรียญสหรัฐยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงจากการใช้คิวอี 3 เป็นปัจจัยบวก ที่ส่งเสริมให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าราคาทองคำปลายปี 2556 น่าจะปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 1,900–2,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ แม้ระยะสั้นทองคำอาจขึ้นลงเป็นรอบตามข่าวปัญหาหนี้ยุโรปที่ออกมาเป็นระยะ และเป็นโอกาสให้ผู้ลงทุนเข้าซื้อขายทำกำไรระยะสั้นได้

นอกจากนี้ ปัจจัยบวกจากตลาดโลกซึ่งยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้น เชื่อว่าจะส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นตามไปด้วย เห็นได้จากปริมาณทองคำที่ถือครองโดยกองทุน ETF ทองคำทั่วโลกในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ เพิ่มขึ้นมาที่ 2,554 ตัน ถือเป็นสถิติสูงสุด และสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังเป็นบวกต่อราคาทองคำ แม้ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาราคาทองคำจะอยู่ในระดับสูงมาก

ขณะเดียวกันปริมาณทองคำที่เข้าซื้อเพิ่มเติมโดยธนาคารกลางทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปีถึงเดือน ส.ค. 2555 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 251.80 ตัน มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 25% แสดงให้เห็นว่าธนาคารกลางทั่วโลกยังเชื่อมั่นในมูลค่าของทองคำ และคาดว่าแนวโน้มในระยะยาวจะยังคงเข้าถือครองทองคำเพิ่มเติมขึ้นอีก ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำเช่นกัน

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า บริษัทออกกองทุนเปิดธนาคารชาเลนจ์ 2 (T-Challenge 2) เน้นลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง มีโอกาสที่จะทำกำไรในช่วงภาวะผันผวน เนื่องจากมองว่าปีนี้และปีหน้า คาดว่าตลาดหุ้นยังผันผวน โดยจะเสนอขายกองทุนครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 17-25 ต.ค.นี้ ตั้งเป้าผลตอบแทน 7% ภายใน 7 เดือน โดยมีเงื่อนไขเลิกกองทุนเมื่อมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) แตะ 10.81 บาท เป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน