posttoday

รีวิวแคนนอน650D"ครบ"ทุกการใช้งาน

11 ตุลาคม 2555

ลองใช้ แคนนอน650D ดีเอสแอลอาร์ที่ครบและครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งาน

ลองใช้ แคนนอน650D ดีเอสแอลอาร์ที่ครบและครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งาน

โดย...โยโมทาโร่

ผมว่าอนาคตช่างภาพอาชีพอาจมีร้อนๆ หนาวๆ กันบ้างเล็กน้อย หากกล้องดิจิตอลคอมแพกต์รุ่นใหม่ๆ สามารถเนรมิตภาพได้ดังฝันเพียงแค่ ยกเล็งและกดชัตเตอร์ แล้วที่เหลือกล้องจะจัดการให้เราเองทั้งหมดหรือนำมาปรับแต่งภายในกล้องเพียงไม่กี่คลิก และที่สำคัญคือตัวกล้องต้องอยู่ในราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง

รีวิวแคนนอน650D"ครบ"ทุกการใช้งาน

ทำให้ผู้ใช้หลายคนมองว่าแค่กล้องคอมแพกต์ดีๆ สักตัวก็พอแล้วสำหรับการถ่ายภาพครอบครัวและภาพสำหรับท่องเที่ยว ว่าแล้วแคนนอนก็ปล่อยตัวแคนนอน 650D ออกมาให้เราผู้ใช้ลังเลกันอีกครั้ง โดยเลือกใช้ชิปประมวลผลตัวใหม่ Digic5 ช่วยลดสัญญาณรบกวนของภาพให้ดียิ่งขึ้น พ่วงด้วยความสามารถอันล้นเหลือชนิดที่เรียกได้ว่าข้ามรุ่นไปชกกับรุ่นพี่ 7D หรือ 5D ได้สบายๆ มากเป็นตัวชูโรง ตามด้วยอาวุธชิ้นใหม่ให้นักถ่ายภาพมือสมัครเล่นไปถึงเทิร์นโปรสร้างสรรค์ภาพได้อย่างใจนึกอย่างเลนส์รุ่นใหม่อีก 2 ตัว คือ เลนส์ EF-S18-135mmf/3.5-5.6 IS STM และเลนส์แพนเค้ก EF40mm f/2.8 STM ที่ใส่มอเตอร์ตัวใหม่รองรับการถ่ายภาพวิดีโอและช่วยให้การโฟกัสภาพอัตโนมัติ ต่อเนื่องและแม่นยำมากขึ้น

รวมทั้งวางตำแหน่งเลนส์และเคลือบเลนส์อย่างพิถีพิถันเพื่อลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดดวงไฟ หรือแสงสว่างจ้าในภาพ ปรับเปลี่ยนม่านรับแสง Iris Blade ใหม่เพื่อให้ได้พื้นหลังของภาพที่เบลอสวยงาม ซึ่งผมเชื่อว่านี่คือก้าวแรกของการพัฒนากล้องและเลนส์ของแคนนอนก้าวใหม่ ที่ควรจับตามองอย่างมาก

650D มีดีอะไรใหม่

ตอนนี้อีกไม่กี่เดือนก็ใกล้จะถึงฤดูกาลท่องเที่ยวหน้าหนาว เชื่อว่าคนที่มองหากล้องตัวใหม่คงกำลังลังเลอยู่ระหว่าง 2 รุ่น คือ 600D กับ 650D ซึ่งผมขอเลือกเปรียบเทียบเฉพาะ 2 รุ่นนี้ ซึ่งผู้ใช้สนใจมากที่สุดและมีราคาแตกต่างกันที่ประมาณ 1 หมื่นบาท ดังนั้น 650D มีอะไรที่ใหม่กว่าดีกว่าจนเราควรตัดสินใจเพิ่มเงินซื้อ เราไปดูพร้อมผลการใช้งานจริงของเรากันดีกว่าครับ

อย่างแรก คือ ชิปประมวลผลภาพ Digic5 ที่ช่วยให้ลดจุดรบกวนของภาพให้ดีมากขึ้น ประมวลผลได้เร็วขึ้นกินพลังงานลดลง แต่จากการทดสอบของเรา ต้องบอกตามตรงว่ายังไม่เห็นผลตรงจุดนี้มากนักเพราะตัว Digic4 ในกล้อง 550D และ 600D เดิมทำไว้ดีมาก ดังนั้นของใหม่ก็น่าจะดีกว่า แต่ในด้านความรู้สึกจากภาพที่ได้ยังไม่ชัดเจน รวมทั้งบางช็อตดูเหมือนไวต์บาลานส์จะเปลี่ยนไปตามใจกล้อง ทั้งที่อยู่ในสถานที่โหมดวัดแสงและสภาพแสงเดียวกันทั้งสิ้น สร้างความรำคาญใจพอสมควร จนเราต้องเปลี่ยนไปใช้โหมดแมนนวลทั้งหมดอาการที่ว่านี้จึงจะหายไป

ต่อมาก็คือโหมดโฟกัสภาพแบบครอสไทป์ 9 จุด ผมว่านี่คือจุดสำคัญที่ทำให้กล้อง 650D ใกล้เคียงรุ่นโปรมากขึ้น เพราะจุดครอสไทป์เดิมในซีรีส์เลข 3 หลักจะมีมาให้เพียงจุดเดียวคือตรงกลางเท่านั้น แต่คราวนี้ให้มากถึง 9 จุด ทำให้เราสามารถเลือกโฟกัสบริเวณจุดตัด 9 ช่องได้ง่ายดายและแม่นยำมากขึ้น ผมมองว่าความสามารถจุดนี้ล้ำหน้า 600D อยู่หลายช่วงตัว

รวมทั้งเสียงเรียกร้องของสาวกแคนนอนที่อยากได้ระบบถ่ายภาพวิดีโอเต็มรูปแบบในรุ่น 650D นี้รองรับการถ่ายวิดีโอตั้งแต่ระดับมือสมัครเล่นไปจนถึงระดับมืออาชีพ ด้วยการโฟกัสอัตโนมัติในโหมดถ่ายภาพวิดีโอ (ซึ่งน่าจะมีมานานแล้ว) รวมทั้งไมโครโฟนอัดเสียงสเตริโอ (นี่ก็ควรจะมีมานานแล้วเช่นกัน) ทำให้รุ่นนี้ไม่มีอะไรที่น้อยหน้าไปกว่าค่ายอื่นๆ อีกแล้ว

รีวิวแคนนอน650D"ครบ"ทุกการใช้งาน

มาถึงความแตกต่างหลักๆ ในจุดสุดท้ายก็คือ หน้าจอทัชสกรีน จากความเห็นส่วนตัวของผมจากการลงพื้นที่ถ่ายภาพ ผมว่าเป็นอะไรที่สะดวกดี ในการเข้าปรับโหมดต่างๆ ได้ด้วยการแตะหน้าจอเพียงไม่กี่ครั้ง เช่น เปลี่ยนความละเอียดภาพ ปรับโหมดวัดแสง ปรับโหมดไวท์บาลานส์ และโหมดอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถปรับตั้งได้ทีหลัง

เวลาดูภาพย้อนหลังก็แค่ใช้นิ้วเลื่อนดูภาพ ย่อขยายเหมือนตอนดูภาพในไอโฟนกันเลยทีเดียว ตรงจุดนี้สำหรับช่างภาพแล้วเป็นสิ่งสร้างความสะดวกครับทำให้เขาดูภาพได้เร็วขึ้น ส่วนการใช้งานในโหมดไลฟ์วิวต่อบอกว่าช้าเหมือนเดิม แต่ดีขึ้นตรงที่เราสามารถแตะเลือกจุดโฟกัสได้ที่หน้าจอเลย เหมาะสำหรับช่างภาพสูงวัยที่สายตาเริ่มพร่ามัว ผมมองว่านี่เป็นการเอาใจช่างภาพหลายๆ กลุ่มเพราะแต่ละคนก็ต้องการความสามารถที่แตกต่างกันออกไปซึ่ง 650D อาจจะเป็นรุ่นแรกในรอบ 5 ปี ของแคนนอนที่จัดเต็มมาครบ

เลนส์ใหม่ดีตรงไหน

ในชุดทดสอบเราได้ใช้เลนส์ตัวใหม่และเลนส์แพนเค้ก EF40mm f/2.8 STM ในส่วนของ 18-135 IS STM นั้น การโฟกัสภาพยังทำได้รวดเร็วกว่าเดิมและยิ่งออกแบบมาเข้าชุดกับกล้อง 650D ด้วยแล้วยิ่งกลายเป็นคู่หูที่ลุยถึงไหนถึงกันสามารถถ่ายได้ทุกสถานการณ์ EF-S18-135mm f/3.5-5.6 IS STM ตั้งแต่วิวฟ้ากว้างไปจนถึงผีเสื้อที่ปลายเกสร ช่วงโฟกัสมาโครของเลนส์ตัวนี้จะอยู่ที่ประมาณ 27-30 ซม. ใกล้กว่าเลนส์ตัวเดิมเล็กน้อย และดูเหมือนกว่าภาพที่ได้จากเลนส์ตัวนี้จะออกโทนสีสันจัดจ้านคอนทราสต์สูงกว่าอีกด้วย

ส่วนเลนส์แพนเค้ก EF40mm f/2.8 STM เป็นตัวที่เราประทับใจมากที่สุดเพราะเป็นทางเลือกใหม่ของเลนส์ถ่ายภาพบุคคล โดยปกติแล้วคนเล่นกล้องแคนนอนจะเลือกใช้เลนส์ 50 F1.8 ที่มีราคาไม่แพงแต่ได้ภาพที่สวยงาม แต่ข้อบกพร่องก็คือ แสงในภาพจะดูจะฟุ้งกระจายมาก แต่สำหรับ 40 mm f/2.8 จะใช้เลนส์ Aspheric ตั้งแต่จุดศูนย์กลางไปจนถึงเส้นรอบวงวางตำแหน่งเลนส์และเคลือบปิด เพื่อลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดดวงไฟ หรือแสงสว่างจ้าในภาพ

รีวิวแคนนอน650D"ครบ"ทุกการใช้งาน ภาพที่ได้จากกล้อง

ภาพที่ได้จากการทดสอบของจึงเป็นภาพที่คมชัดกว่า 50 mm ระยะห่างจากแบบน้อยลง เพราะช่วงเลนส์กว้างขึ้น ข้อเสีย ก็คือค่ารู้รับแสงไม่กว้างเท่าทำให้การละลายฉากหลังน้อยกว่า และดูเหมือนว่า ช่วงรูรับแสงที่ดีที่สุดของเลนส์ตัวนี้จะอยู่ที่ f 3.5 ลดลงมา 1 สตอปภาพที่ได้จะมีสีสัน คมชัด ดูสวยงามสบายตา ฉากหลังละลายอย่างเป็นธรรมชาติมาก ผมว่าถ้าคนที่มีกล้องและกำลังหาเลนส์เสริมผมแนะนำตัว EF40mm f/2.8 STM นี้ เป็นเลนส์ที่คุ้มค่ามากครับเพราะนอกจากถ่ายภาพบุคคลเดี่ยวๆ ได้สวยแล้ว เอาไปถ่ายภาพกลุ่มเพื่อนๆ 4-5 คนโดยที่ไม่ต้องใช้ช่วงซูมเท้า (เดินถอยหลัง) มากนัก

โดยรวมแล้วแคนนอน 650D พร้อมเลนส์ EF-S18-135mm ในราคาเปิดตัวประมาณ 4 หมื่นบาท (เอื๊อก...) พร้อมกับเลนส์ EF40mm f/2.8 ในราคาประมาณ 6,500 บาท นับเป็นทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหากล้องดีเอสแอลอาร์ชั้นดีสักตัว เพราะทุกอย่างได้ครบซื้อแล้วแทบจะไม่ต้องหาอุปกรณ์เสริมเพิ่ม ขออย่างเดียวเท่านั้นซื้อแล้วต้องขยันถ่ายขยันเที่ยว ถ่ายภาพสวยๆ ให้คุ้มอายุใช้งานชัตเตอร์

ซื้อมาแพงแค่ไหนไม่นานก็คุ้มแน่นอนครับ

รีวิวแคนนอน650D"ครบ"ทุกการใช้งาน

*****************************

ข้อมูลจำเพาะ
ความละเอียดเซนเซอร์รับภาพ 18 ล้านพิกเซล CMOS APS-C (22.3 x 14.9 mm)
โปรเซสเซอร์ Digic 5
ความเร็วชัตเตอร์ 30-1/4000
การโฟกัสครอสไทป์ 9 จุด
ความไวแสง 100-12800 มีระบบซิงก์แฟลชเสริมภายนอกในตัว
ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง Full HD (1920x1080 พิกเซล ที่ 24p, 25p, or 30p)
มิติตัวกล้อง กว้าง สูง ลึก 133x100x79 mm
น้ำหนักตัวกล้อง 575 กรัม

รีวิวแคนนอน650D"ครบ"ทุกการใช้งาน

 

ข่าวล่าสุด

โปรแกรมบอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด ผลบอลสด วันอังคารที่ 23 ธ.ค. 68