“อลิอันซ์”...พร้อมผงาดขึ้นที่ 3

โดย...วารุณี อินวันนา

ตลาดประกันภัยไทยกำลังเป็นที่ขับเคี่ยวเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดอย่างเข้มข้น จากผู้เล่นที่เป็นกลุ่มทุนข้ามชาติจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี เกาหลี และกลุ่มทุนไทย เพราะเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 2 ปีที่ผ่านมา โตเกินกว่า 10%

และในปีนี้คาดว่า เบี้ยรับรวมทั้งประกันชีวิตและประกันภัยของไทยจะถึง 5.5 แสนล้านบาท คิดเป็น 5.7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ

“อลิอันซ์” กลุ่มทุนข้ามชาติจากเยอรมนี เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ประกาศชัดจะขยายการลงทุนในธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต หากราคาน่าพอใจและได้ฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น

ต้นปีที่ผ่านมาได้ลงทุนในประเทศไทยในนามบริษัท ศรีอยุธยา แคปปิตอล (AYUD) เพิ่ม 1,270.12 ล้านบาท ด้วยการเข้าซื้อหุ้นบริษัท อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต (AACP) จากกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ 17.26 ล้านหุ้น เป็นเงิน 517.95 ล้านบาท หรือ 5.85% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว

และซื้อหุ้นจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) 25.07 ล้านหุ้น เป็นเงิน 752.17 ล้านบาท หรือ 8.50% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว

เมื่อรวมกับหุ้นที่ถืออยู่เดิม กลุ่มอลิอันซ์ถือหุ้นในบริษัท อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ผ่านบริษัทศรีอยุธยา แคปปิตอล ทั้งสิ้น 59.50 ล้านหุ้น คิดเป็น 20.17% ในขณะที่กฎหมายให้กลุ่มอลิอันซ์ถือหุ้นโดยตรงในบริษัทประกันชีวิตไทยเต็มที่ได้ถึง 25%

ปัจจุบัน อลิอันซ์จึงน่าจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่คุมอำนาจการบริหารที่สมบูรณ์แบบ

แม้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) จะขายหุ้นบริษัท อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต แต่ความสัมพันธ์ในเชิงธุรกิจยังไม่เปลี่ยนแปลง เพราะยังถือหุ้นในบริษัท ศรีอยุธยา แคปปิตอล (AYUD) ในสัดส่วนเท่าเดิมคือ 10.92% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว และกลุ่มรัตนรักษ์ หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก็ถือหุ้นในบริษัท ศรีอยุธยา แคปปิตอล (AYUD) ในสัดส่วนเท่าเดิมที่ 26.91% ขณะที่กลุ่มอลิอันซ์ถือหุ้นในสัดส่วน 16.84%

จากโครงสร้างการถือหุ้นข้างต้น ทำให้มีการเปลี่ยนชื่อบริษัท อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต (AACP) เป็นบริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต (AZAY) ในปัจจุบัน และใช้เงิน 100 ล้านบาท ในการทำการประชาสัมพันธ์ชื่อใหม่ผ่านภาพยนตร์โฆษณา 5 เรื่อง ที่เน้นนำเสนอบริการหลักๆ ของบริษัทออกสู่ตลาดในขณะนี้

การลงทุนของกลุ่มอลิอันซ์ในไทยไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ ไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต (AZAY) กล่าวว่า กลุ่มอลิอันซ์ ทั้งในส่วนของภูมิภาคและบริษัทแม่ ยืนยันในการที่จะลงทุนในไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เพิ่มในโอกาสต่อไป เพราะเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการลงทุน เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้

วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มอลิอันซ์ ที่มี 3 ธุรกิจหลักอยู่ในมือ คือ ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจประกันชีวิต และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ รวมถึงภัยพิบัติในนิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น และไทย ไม่ได้ส่งผลมากนัก เพราะมีธุรกิจบริหารสินทรัพย์ที่ทำผลตอบแทนดีเข้ามารองรับ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ส่งผลให้กลุ่มอลิอันซ์ยังคงครองอันดับ 1 ของบริษัทประกันภัยระดับโลกทั้งในด้านรายได้ เบี้ยรับรวม และกำไร

“เราได้รับเป้าหมายให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ภายใต้แนวทางการเติบโตแบบเดิม ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายที่จะมีเบี้ยรับรวม 2.3 หมื่นล้านบาท และเบี้ยรับปีแรก 5,000 ล้านบาท เรามีสินทรัพย์รวม 1.1 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันก็ต้องมองหาแนวทางการเติบโตอื่นๆ เข้ามาเสริม”สมิธ กล่าว

สมิธ กล่าวว่า การซื้อหรือการควบรวมกิจการ เป็นอีกแนวทางหนึ่งของโอกาสที่จะเกิดขึ้นในช่วงเศรษฐกิจขาลง ที่ผู้ถือหุ้นให้ความสำคัญที่จะรอจังหวะในการเข้าไปเจรจา ซึ่งคาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงกลางปี 2556 เพราะเป็นเวลาที่เศรษฐกิจโลกจะมีความชัดเจน ขณะนี้อยู่ระหว่างรอมาตรการต่างๆ ของประเทศที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างยุโรป สหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น จะแก้ปัญหากันอย่างไร และเศรษฐกิจจะไปทิศทางไหน น่าจะเห็นความชัดเจนในกลางปีหน้า

“การเติบโตแบบก้าวกระโดด เพื่อที่จะให้แผนธุรกิจที่จะครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 3 ในไทย ในอีก 35 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่อยู่อันดับ 5 จึงต้องผสมผสานระหว่างการโตด้วยตัวเองกับการหาบริษัทใหม่ที่มีฐานการตลาดเข้ามาควบรวมกิจการเพื่อทำงานร่วมกัน” สมิธ กล่าว

การประกาศชัดถึงท่าทีการรุกตลาดประกันภัยไทยของ “อลิอันซ์” ทุนข้ามชาติจากเยอรมนี เพิ่มอุณหภูมิความร้อนแรงของการแข่งขัน และน่าจับตาเพิ่มขึ้น จากก่อนหน้านี้กลุ่มทุนจากสหรัฐอเมริกา พยายามที่จะผลักดันให้บริษัทลูกในไทยทำรายได้เบี้ยประกันแซงหน้าฮ่องกง รวมทั้งมีกระแสข่าวจะเข้าซื้อธุรกิจประกันชีวิตของกลุ่มไอเอ็นจีในไทย

ขณะที่กลุ่มทุนญี่ปุ่น เกาหลี ไทย ต่างปักหลักตั้งหน้างัดสารพัดกลยุทธ์ในการชิงเบี้ยเข้ากระเป๋า

และในเร็วๆ นี้ ธุรกิจประกันอาจเห็นการเปลี่ยนหน้าของผู้เล่นอันดับต้นๆ ในประเทศไทย แต่จะเป็นใคร ไม่นานเกินรอ