บี้ลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลือง

สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์เตรียมร่อนหนังสือถึงรัฐ ขอความชัดเจนลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองเหลือ 0% ชี้ไม่ยุติธรรม ย้ำอุ้มโรงงานสกัดน้ำมันมากเกินไป

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวในฐานะนายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ ว่า ภายในเดือน ก.ย.นี้จะยื่นหนังสือถึงรัฐบาล เพื่อขอความชัดเจนกรณีที่ผู้ผลิตอาหารสัตว์เรียกร้องให้ช่วยลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองจาก 2% เหลือ 0% เพราะไม่เห็นเหตุผลเพียงพอที่รัฐบาลจะไม่ยอมลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองให้ และหากไม่ลดภาษีนำเข้าให้ก็ถือว่าไม่ยุติธรรมต่อผู้ผลิตอาหารสัตว์

ทั้งนี้ เหตุผลที่รัฐบาลไม่ยอมลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองให้เพราะกลัวว่าจะสร้างความเสียหายแก่โรงงานน้ำมันพืชนั้นไม่เป็นความจริง เพราะปัจจุบันโรงงานสกัดน้ำมันพืชจากถั่วเหลืองนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองปีละ 2 ล้านตัน เสียภาษีนำเข้า 0% ขณะที่เมล็ดถั่วเหลืองที่ผลิตได้ในประเทศ 1.5 แสนตัน ก็กำหนดให้เอกชนทั้งโรงสกัดน้ำมัน และผู้ผลิตอาหารสัตว์ช่วยรับซื้อจากเกษตรในราคาประกันที่ระดับ 1516 บาท/กก. แต่ส่วนใหญ่เอกชนก็รับซื้อในราคาตลาดที่ขึ้นไปอยู่ 20 บาท/กก. อยู่แล้ว

นอกจากนี้ ผู้ผลิตอาหารสัตว์ยังถูกกำหนดให้รับซื้อกากถั่วเหลืองต่อจากโรงงานสกัดน้ำมันในราคาเดียวกับการนำเข้ากากกั่วเหลืองจากต่างประเทศด้วย ซึ่งเท่ากับว่าตอนนี้ผู้ผลิตอาหารสัตว์โดนเอาเปรียบทั้ง 2 ทาง และยังถูกบีบจากการที่ต้องขออนุญาตปรับขึ้นราคาอาหารสัตว์ กับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ อีก

“การที่รัฐบาลไม่ยอมลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์นั้น ยังไม่เห็นเหตุผลอะไรเลย มีแต่โรงงานสกัดน้ำมันที่ไปล็อบบี้รัฐบาลไม่ให้ลดภาษีนำเข้าให้ เพราะตัวเองจะได้ประโยชน์จากการที่ผู้ผลิตอาหารสัตว์ต้องมารับซื้อกากถั่วเหลืองต่อในราคาเดียวกับราคานำเข้า แต่หากรัฐบาลจะปกป้องโรงงานสกัดก็ควรปกป้องแค่กากถั่วเหลืองที่ได้จากเมล็ดถั่วเหลืองที่ผลิตได้ภายในประเทศเท่านั้น เพราะมันไม่ยุติธรรมเลย” นายพรศิลป์ กล่าว

ทั้งนี้ ต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์หลักๆ อย่างข้าวโพดและถั่วเหลืองในตลาดโลกมีการปรับเพิ่มขึ้น โดยข้าวโพดปรับเพิ่มขึ้นกว่า 20% กากถั่วเหลืองปรับเพิ่มขึ้นกว่า 50% ปลาป่นปรับเพิ่มขึ้นกว่า 15% และปลายข้าวปรับเพิ่มขึ้นกว่า 50% ทำให้ต้นทุนรวมปรับสูงขึ้นไปแล้ว 1015% แต่ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการผลิตอาหารสัตว์ถูกควบคุมการปรับราคาขายสินค้ามาโดยตลอด นับเป็นการบิดเบือนกลไกตลาดอย่างแรง

อย่างไรก็ตาม คาดว่า อุตสาหกรรมการผลิตอาหารสัตว์ในปี 2555 จะมีความต้องการอาหารสัตว์รวม 15 ล้านตัน ซึ่งต้องการวัตถุดิบข้าวโพด 6 ล้านตัน แต่ผลผลิตภายในประเทศมีเพียง 45 ล้านตัน และยังมีการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกกว่า 34 แสนตัน ทำให้วัตถุดิบไม่เพียงพอในการผลิตอาหารสัตว์ แม้ว่าจะมีการอนุญาตให้นำเข้าได้ แต่ก็มีราคาสูงขึ้นเนื่องจากเกิดปัญหาภัยแล้งในพื้นที่เพาะปลูกหลายประเทศ ซึ่งหากปรับลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองลงก็จะช่วยชะลอการปรับขึ้นราคาอาหารสัตว์ได้ถึงสิ้นปีนี้