posttoday

รีโนเวตปากคลองตลาดผุดแลนด์มาร์กใหม่ริมฝั่งเจ้าพระยา

08 กันยายน 2555

แม้วันนี้ตลาดนัดสะพานพุทธจะยังได้รับความนิยมจากวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวอยู่ จากรูปแบบสินค้าและราคาที่ไม่แพงมากนัก

แม้วันนี้ตลาดนัดสะพานพุทธจะยังได้รับความนิยมจากวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวอยู่ จากรูปแบบสินค้าและราคาที่ไม่แพงมากนัก

แต่เบื้องหลังตลาดนัดสะพานพุทธที่ตั้งเคียงแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างตลาดปากคลองตลาด กลับอยู่ในสถานการณ์ตรงกันข้าม ด้วยรูปแบบที่ทรุดโทรม เฉอะแฉะ และสกปรกไม่ต่างจากตลาดอื่นๆ คงเหลือแต่ส่วนของตลาดดอกไม้ด้านติดถนนจักรเพชรที่ยังพอดูได้และคึกคักจนถึงค่ำคืน จนทำให้ถูกหลงลืมไปว่าสถานที่แห่งนี้คือประวัติศาสตร์อีกชิ้นหนึ่งของเกาะรัตนโกสินทร์เช่นเดียวกัน

จากปี 2496 ที่ตลาดแห่งนี้ตั้งขึ้น โดยย้ายถิ่นฐานการค้าขายหลักจากท่าเตียนมาไว้ที่นี่ จากถนนจักรเพชรยาวไปจนถึงถนนมหาราชในปัจจุบันที่เราเห็น เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ที่ตั้งโอบล้อมวัดราชบูรณะ โรงเรียนราชินี และโรงเรียนสวนกุหลาบ มารวมเป็น 3 ตลาดในปัจจุบัน ได้แก่ ตลาด ขององค์การตลาด ตลาดยอดพิมาน และตลาดส่งเสริมการเกษตร

วันนี้ย่านปากคลองตลาดยังคงสภาพเป็นศูนย์กลางการค้า เนื่องด้วยทำเลที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาและไม่ไกลนักจากย่านค้าขายอย่างเยาวราช แต่ถึงกระนั้นเอง ยังคงมีน้ำขัง มีคนส่งเสียงเอะอะโวยวาย และมีลูกจ้างร้านค้าเดินเข็นรถ ลากถังไปมา แต่เชื่อหรือไม่ว่าในอีกไม่ถึงหนึ่งปี ตลาดปากคลองตลาดแห่งนี้จะถูกแปรเปลี่ยนเป็นตลาดแห่งใหม่ที่มีความร่วมสมัย ผสมผสานกับความเป็นแหล่งอนุรักษ์วัฒนธรรมบนพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์เหมือนเดิม

รีโนเวตปากคลองตลาดผุดแลนด์มาร์กใหม่ริมฝั่งเจ้าพระยา

 

ธีธัช สุขสะอาด ผู้อำนวยการองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหนึ่งในเจ้าของพื้นที่ส่วนหนึ่งของปากคลองตลาด เล่าให้ฟังว่าที่ผ่านมาตลาดแห่งนี้ไม่ได้ถูกจัดการมานานจนกลายเป็นว่าที่แห่งนี้มีชื่อเสียงด้านลบมากกว่าด้านบวก โดยเฉพาะภาพลักษณ์ของความสะอาดถูกสุขอนามัยที่เจ้าของตลาดควรจะเอื้อให้กับผู้ที่เข้ามาเดินเลือกซื้อสินค้า แต่กลับกลายเป็นคำพูดติดปากว่า ที่ปากคลองตลาดแห่งนี้ “เต็มไปด้วยหนูตัวใหญ่กว่าแมว”

“ก่อนหน้านี้เวลามีกระบวนเรือราชพิธี เสด็จทางชลมารคผ่านปากคลองตลาด ก็จำเป็นต้องเอาผ้าใบคลุมไว้ไม่ให้เห็นทัศนียภาพที่ไม่สวยงาม และต้องเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ตลอด 10-20 ปีให้หลัง ทั้งที่อาคารโดยรอบ ทั้งโรงเรียนราชินี โรงเรียนสวนกุหลาบ หรือฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามและโบสถ์ซางตาครู้ส ต่างก็มีทัศนียภาพที่สวยงาม เพราะฉะนั้นปากคลองตลาดถึงเวลาที่จะต้องปรับปรุงตัวเอง เพื่อให้มีทัศนียภาพที่สวยงามแล้ว” ธีธัช เล่าให้ฟัง

ในที่สุด องค์การตลาดก็เริ่มระดมสมองร่วมกับบริษัท ตลาดยอดพิมาน ซึ่งดูแลตลาดยอดพิมาน โดยยึดแนวคิดว่าต้องพลิกฟื้นทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพมากสุด ซึ่งก็ประจวบเหมาะกับช่วงที่ตลาดจะต้องหาผู้เช่าช่วงต่อมาดำเนินการพอดี โดยในช่วงแรกวางไว้ 3 แนวทางในการบริหารจัดการ คือ 1.ลงทุนเอง ซึ่งต้องใช้งบหลายร้อยล้านบาท 2.จ้างผู้รับจ้างหรือมอบให้เอกชนดำเนินการทั้งหมด และ 3.ร่วมดำเนินการ ซึ่งจากการพิจารณาทั้งผลลัพธ์และอุปสรรคต่างๆ ก็เลือกทางเลือกที่สาม โดยร่วมกับบริษัท ตลาดยอดพิมาน และได้กลุ่มการค้า บริษัท ปากคลองตลาด 2552 เป็นผู้ดำเนินการเชื่อมโยงทั้งสองตลาดเข้าด้วยกัน และรับหน้าที่ปรับปรุงสภาพปากคลองตลาดทั้งหมด โดยใช้เงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ในการปรับปรุงทั้งหมด

โดยคณะกรรมการเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ ให้ความเห็นชอบแผนการปรับปรุงตลาดเป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน กระบวนการการจัดทำแผนการดำเนินงาน รวมถึงประชาพิจารณ์จากคนในชุมชนก็ผ่านไปอย่างราบรื่น โดย ธีธัช บอกว่า เหตุที่ไม่เป็นปัญหาเหมือนกับการเปลี่ยนแปลงที่อื่น เนื่องจากคนในปากคลองตลาดเห็นปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมร่วมกัน และก็เห็นด้วยว่าการปรับปรุงใหม่จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ทำให้ได้พื้นที่ค้าขายมากขึ้นและลดค่าใช้จ่ายในการเช่าแผงลงด้วย

รีโนเวตปากคลองตลาดผุดแลนด์มาร์กใหม่ริมฝั่งเจ้าพระยา

 

“เราเปลี่ยนกายภาพทั้งหมดของปากคลองตลาดให้แปลกตา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งของเดิม เพราะฉะนั้นจะเห็นการปรับปรุงกายภาพใหม่ทั้งหมด ทั้งถนน การจราจรภายใน ระบบบำบัดน้ำเสีย การจัดวางท่อระบายน้ำ การปูกระเบื้อง โครงสร้างหลังคา อาคารริมน้ำ ซึ่งทุกอย่างจะดูโปร่ง และน่าเดินมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็มีจุดสนใจใหม่ๆ อย่างทางเดินไม้ริมแม่น้ำเจ้าพระยาขนาดใหญ่สำหรับเป็นร้านอาหาร หรือพัฒนาเป็นอย่างอื่นก็ทำได้” ผู้อำนวยการองค์การตลาด กล่าว

ขณะเดียวกัน ก็จะมีจุดสนใจใหม่อย่างซุ้มประตูทางเข้าปากคลองตลาดด้านติดถนนจักรเพชรขนาดใหญ่รอต้อนรับนักท่องเที่ยว หรือด้านที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะมีรูปปั้นหนุมานขนาดใหญ่ ที่พ่นน้ำออกจากปากเป็นน้ำพุ ซึ่งในเวลาค่ำคืนอาจหาวเป็นดาวเป็นเดือนได้ด้วยระบบแสงสีเสียง คอยสร้างสีสันให้ริมฝั่งเจ้าพระยายามเคียงคู่กับสะพานพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ รวมถึงฝั่งตรงข้ามอย่างวัดอรุณฯ หรือโบสถ์ซางตาครู้ส

“เราไม่ได้ทิ้งความเป็นตลาดผัก ตลาดผลไม้ หรือสถาปัตยกรรมภายในเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีรูปแบบเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะฉะนั้นเราจะไม่ได้ปรับปรุงตลาดด้วยการสร้างอาคารใหม่หวือหวา แต่ปากคลองตลาดจะถูกพูดถึงในฐานะเป็นตลาดท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกแห่ง ที่ผสมผสานการค้าขายในยุคใหม่กับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรมรัตนโกสินทร์เข้าไปด้วย โดยอาศัยทำเลที่ตั้งซึ่งมีความได้เปรียบมาเป็นตัวชูโรง ในอนาคตคนมาปากคลองตลาดก็ไม่ได้มาค้าขายอย่างเดียว แต่สามารถมาเดินเล่น รับประทานอาหาร หรือถ่ายรูปกับจุดชมวิวที่เราจัดไว้ให้ได้ด้วย” ธีธัช บอกกับเรา

ตามกำหนดการ สัญญาปรับปรุงปากคลองตลาดจะใช้เวลาทั้งสิ้น 450 วัน ซึ่งที่ผ่านมาก็ประสบปัญหาบ้างจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว แต่จนถึงวันนี้การก่อสร้างยังคงเดินหน้าต่อและคืบหน้าไปกว่า 60% แล้ว โดย ธีธัช มั่นใจว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ. 2556

 

ข่าวล่าสุด

"ธรรมนัส” เผย 25 ธ.ค.นี้ กล้าธรรมเปิดตัวสส.ทั้งเขต-ปาร์ตี้ลิสต์