เคแบงก์ขยับคิดค่าทวงหนี้

“กสิกรไทย” รีดค่าติดตามหนี้ลูกค้าบัตรเครดิต 250 บาทต่อรอบบัญชี หวังคุมพวกจ่ายล่าช้า หันขยายสัดส่วนลูกค้าผ่อนชำระขั้นต่ำเพิ่มรายได้

นายชาติชาย หยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ออกประกาศขอเรียกเก็บค่าติดตามทวงถามหนี้ 250 บาทต่อรอบบัญชี สำหรับลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตที่มีการชำระล่าช้าและไม่สามารถขอยกเว้นได้ โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่รอบบัญชีวันที่ 10 ส.ค. 2555 นี้เป็นต้นไป จากเดิมที่ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนนี้

นายชาติชาย กล่าวว่า สาเหตุที่ธนาคารมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนนี้เพิ่มเติม เพื่อให้สอดรับกับการบริหารความเสี่ยงของธนาคาร และเป็นการปรับให้ขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับตลาดที่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนนี้อยู่แล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาการติดตามทวงถาม เช่น การโทรศัพท์ หรือการส่งเอกสารแจ้งเตือน ถือเป็นต้นทุนของธนาคาร

“ก่อนหน้านี้เรายกเว้นให้ลูกค้าในขณะที่แบงก์อื่นเรียกเก็บ แต่ตอนนี้เรามีการจ้างเอาต์ซอสเข้ามาดูแล จึงเริ่มเก็บให้เป็นมาตรฐานเดียวกันเพื่อลดต้นทุนในส่วนนี้ แบงก์ชาติเองก็อนุญาตให้เรียกเก็บค่าทวงถามนี้ได้ตามความจริง โดยเชื่อว่าการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตรงนี้จะช่วยป้องกันการชำระล่าช้าของลูกค้าได้” นายชาติชาย กล่าว

ขณะเดียวกัน ธนาคารมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตในกลุ่มที่ใช้ผ่อนชำระขั้นต่ำจาก 55% ขึ้นเป็น 60% และลดสัดส่วนกลุ่มที่ชำระเต็มจำนวนจาก 45% ลงมาอยู่ที่ 40% เพื่อเพิ่มรายได้ดอกเบี้ยให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ทั้งนี้ธนาคารจะเริ่มขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มเด็กจบใหม่และวัยเริ่มทำงาน ซึ่งจะเป็นผู้ถือบัตรใบแรกและมีโอกาสผ่อนชำระสูง

ที่ผ่านมาลูกค้าธนาคารจะเป็นกลุ่มคนรายได้สูงที่ชำระเต็มจำนวน การจะหันมาเพิ่มสัดส่วนลูกค้าผ่อนชำระก็จะต้องควบคุมพฤติกรรมการชำระของลูกค้าให้เข้มขึ้นด้วย เพื่อป้องกันหนี้เสีย จากนี้หากลูกค้ารายใดชำระล่าช้าตั้งแต่ 35 วัน ธนาคารก็จะเริ่มมีการทวงถาม

จากการสำรวจค่าธรรมเนียมในการติดตามทวงถามหนี้บัตรเครดิตในตลาด พบว่าธนาคารไทยพาณิชย์เรียกเก็บอยู่ที่ 250 บาทต่อรอบบัญชี และ 300 บาท สำหรับยอดค้างชำระเกินกว่า 2 รอบบัญชีติดต่อกัน

ขณะที่ธนาคารซิตี้แบงก์ เรียกเก็บที่สูงสุด 225 บาทต่อรอบบัญชี ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเรียกเก็บที่ 267.50 บาทต่อรอบบัญชี บริษัท บัตรกรุงไทย เรียกเก็บ 250 บาทต่อรอบบัญชี

ด้านการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตนั้น รายงานปริมาณการใช้จ่ายบัตรเครดิตทั้งระบบของระบบธนาคารพาณิชย์ งวดสิ้นเดือน พ.ค.ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า มียอดการใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 1.036 แสนล้านบาท ลดลง 770 ล้านบาท หรือ 0.74% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 1.044 แสนล้านบาท แบ่งเป็นการใช้จ่ายในประเทศ 8.44 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1,703 ล้านบาท ส่วนการใช้จ่ายในต่างประเทศ 6,532 ล้านบาท ลดลง 1,284 ล้านบาท และการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้าผ่านบัตรเครดิตมีทั้งสิ้น 1.27 หมื่นล้านบาท ลดลง 1,189 ล้านบาท

ธปท.ประเมินว่า คงต้องตามดูว่าการชะลอตัวลงของสินเชื่อบัตรเครดิตเป็นผลมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้คนมีเงินมาชำระคืนหนี้มากขึ้น หรือเป็นเพราะในช่วงที่ผ่านมาลูกหนี้มีปัญหาจากน้ำท่วมใหญ่ จนทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง