"พลายมาฆะ" ล้มเพราะอวัยวะภายในผิดปกติ

รองคณะบดี ม.มหิดล ชี้แจงสาเหตุสิ้นลูกช้างน้อย "พลายมาฆะ" ช้างแคระวัย 7 วัน หลังผ่าพิสูจน์พบอวัยวะภายในทุกอย่างผิดปกติ

รศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร รองคณะบดีฝ่ายบริการ คณะแพทย์ศาสตร์ ม.มหิดล พร้อมด้วย นายเริงชัย ประยูรเวช ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ( บ้านโป่ง ) อาจารย์นายสัตวแพทย์ เชาวลิต นาคทอง รองคณะบดีฝ่ายวิทยาเขต และคณะสัตวแพทย์ โรงพยาลปศุสัตว์ และสัตว์ป่า ม.มหิดล นายณรงค์ ไพศาลทักษิน นายอำเภอไทรโยค ร่วมแถลงข่าวกรณีการสูญเสีย พลายมาฆะ ช้างแคระเพศผู้วัย 7 วัน ที่บริเวณข้างโรงช้างพังกาญจนา โรงพยาบาลปศุสัตว์ และสัตว์ป่า ม.มหิดล หมู่ 9 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

รศ.น.สพ.ปานเทพ กล่าวว่า ด้วย พลายมาฆะ คลอดก่อนกำหนดถึง 4 เดือน ซึ่งทีมแพทย์สันนิษฐานว่า เพราะพังกาญจนาซึ่งเป็นแม่ร่างกายไม่สมประกอบโดยธรรมชาติของสัตว์ป่า แม่ช้างจึงได้พยายามรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ ก็คือพยายามเบ่งเพื่อให้ลูกคลอดออกมา ลูกช้างตัวนี้ก็เลยคลอดก่อนกำหนด ก็เหมือนการแท้งลูกนั่นเอง

ทั้งนี้ พบว่า ลูกช้างมีร่างกายที่ผิดปกติตั้งแต่เกิด คือมีหัวที่เล็กมาก มีน้ำหนักประมาณครึ่งหนึ่งของลูกช้างปกติ ทำให้อวัยวะภายในเล็กไปด้วย เช่น หัวใจ ปอด และตับ และสิ่งที่ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด คือ ปกติลูกช้างที่เกิดมาจะต้องมีลอนมีหลุกขึ้นมาตรงกะโหลก แต่ลูกช้างตัวนี้กลับไม่มี

ส่วนสาเหตุที่แท้จริงที่ลูกพังกาญจนาเสียชีวิตในครั้งนี้ เนื่องจากว่า หลังจากคลอดออกมานั้น ลูกช้างได้กินนมเข้าไปจนมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น แต่กลับไม่ยอมถ่าย แต่พอมาถึงวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลา 11.30 น.ลูกช้างเกิดถ่ายออกมาอย่างรุนแรง และมีเลือดออกมาด้วย และร่างกายก็อ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งคณะสัตวแพทย์ต่างพยายามช่วยเหลือชีวิตของลูกช้างอย่างเต็มที่ด้วยการ ถ่ายเลือดจากแม่มาจำนวน 2 ถุงเพื่อถ่ายเลือดให้กับลูกช้าง และใช้เครื่องวัดการเต้นของหัวใจทุก 10 นาที ซึ่งต่อมาเวลา ประมาณ 21.00 น.ของวันเดียวกันลูกช้างก็มีอาการดีขึ้น ส่งเสียงร้องได้ปกติ

แต่ต่อมาเวลา 02.30 น.ลูกช้างกลับช๊อกและเสียชีวิตลง ซึ่งสร้างความเสียใจให้กับคณะสัตวแพทย์ ที่ดูแลเป็นอย่างมาก

จากการผ่าพิสูจน์พบว่า เนื้อเยื่อที่หุ้มหัวใจมีขนาดที่บางมาก อวัยวะภายในทุกอย่างมีขนาดเล็กผิดปกติ และพบว่า อวัยวะภายในไม่มีการพัฒนาแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้ได้นำซากของลูกช้างไปเก็บไว้ที่ห้องเย็นของโรงพยาบาลแล้ว