โรงตึ๊งเปิดประตูโล่งลดดอกทรัพย์จำนำ
โรงรับจำนำเตรียมเงิน 350 ล้านบาท ปล่อยกู้ช่วยผู้ปกครองช่วงเปิดเทอม ลดดอกเบี้ยจำนำไม่เกิน 1 หมื่นบาท ลดดอกเบี้ยเหลือ 50 สตางค์
โรงรับจำนำเตรียมเงิน 350 ล้านบาท ปล่อยกู้ช่วยผู้ปกครองช่วงเปิดเทอม ลดดอกเบี้ยจำนำไม่เกิน 1 หมื่นบาท ลดดอกเบี้ยเหลือ 50 สตางค์
นายนิธิศ มนุญพร ผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ หรือโรงรับจำนำของรัฐ เปิดเผยว่า โรงรับจำนำรัฐได้จัดโปรโมชันช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอมโดยลดดอกเบี้ยรับจำนำวงเงินไม่เกิน 1 หมื่นบาท จะลดดอกเบี้ยลงจาก 0.75 สตางค์ต่อเดือนเหลือ 0.50 สตางค์ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 4 เดือน เริ่มในช่วง เม.ย.-มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ โรงรับจำนำทั้งระบบได้จัดเตรียมเงินสำรองให้ลูกค้านำทรัพย์สินมาจำนำทั้งสิ้น 350 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติ 10-20% เพราะเชื่อว่าต้นทุนค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้นทำให้มีความจำเป็นพึ่งพาเงินกู้มากขึ้น
ขณะเดียวกัน ได้ขยายระยะเวลาการลดดอกเบี้ยรับจำนำวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0.25 สตางค์ต่อเดือนออกไปก่อน จากเดิมที่จะสิ้นสุดเดือน มี.ค.นี้ เพื่อแบ่งเบาภาระความเดือดร้อนประชาชนในช่วงภาวะค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้ประชาชนอาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินมากขึ้น
สำหรับในช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ. 2555) มีประชาชนมาใช้บริการเดือนละประมาณ 1 แสนราย วงเงินรับจำนำเฉลี่ย 1,500 ล้านบาทต่อเดือนโดยเฉลี่ยวงเงินจำนำต่อรายไม่มากนักแค่ประมาณ 1.5 หมื่นบาท โดยส่วนใหญ่จะนำทองคำมาจำนำ โดยปีนี้คาดว่าจะมีประชาชนมาใช้บริการจำนวน 1.2 ล้านคน วงเงินรับจำนำรวม 1.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 10-20%
นายนิธิศ กล่าวว่า ขณะนี้ได้จัดทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยเพื่อขออนุญาตขยายสาขาการให้บริการโรงรับจำนำของรัฐให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้โรงรับจำนำของรัฐเป็นแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อแบ่งเบาความเดือดร้อนประชาชนและลดการกู้เงินนอกระบบที่คิดดอกเบี้ยสูงถึง 10-20%
สำหรับแผนดำเนินการในปีนี้ โรงรับจำนำของรัฐได้ตั้งเป้าหมายขยายการรับจำนำเพิ่มขึ้น 10% จาก 1.6 หมื่นล้านบาท เป็น 1.8 หมื่นล้านบาท หรือ 15%เนื่องจากคาดว่าสินทรัพย์ เช่น ทองคำ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับลูกค้ายังคงมีความต้องการใช้เงินมากขึ้นเนื่องจากโรงรับจำนำเป็นแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีใหม่มีลูกค้ามาใช้บริการจำนวนมาก และได้เตรียมเงินรองรับการบริการลูกค้าประมาณ 500ล้านบาท หรือสาขาละ 20 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งหากไม่เพียงพอ สำนักงานใหญ่พร้อมที่จะจัดสรรเงินให้เพียงพอกับความต้องการลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลือทางการเงิน


