โบ๊ทเฮ้าส์ลดไซส์แข่งหัวหิน

โบ๊ทเฮ้าส์ ปรับขนาดห้องชุดเล็ก เริ่มต้นต่ำกว่า 3 ล้านบาทสู้ศึกคอนโดฯ หัวหินแข่งดุ

นายประไพสิทธิ์ ตัณฑ์เกยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทเฮ้าส์ หัวหิน เปิดเผยว่า แนวโน้มการแข่งขันในตลาดคอนโดมิเนียมหัวหิน เปลี่ยนไปจากเดิมที่มีแต่คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์เข้าสู่ตลาด โดยนับจากนี้คาดว่าจะมีคอนโดมิเนียมระดับราคาล้านต้นๆ เข้าสู่ตลาดหัวหินมากขึ้น

นอกจากนี้ ชาวต่างชาติที่เป็นกลุ่มคนซื้อหลักของคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ยังไม่ฟื้นตัวและคาด ว่าคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะกลับเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย บริษัทจึงต้องปรับรูปแบบห้องชุดให้สอดคล้องกับคนไทยมากขึ้น

ทั้งนี้ โบ๊ทเฮ้าส์ ได้ปรับขนาดห้องชุดในส่วนของเฟสใหม่ ภายใต้ชื่อ เดอะ เลจเจ้นท์ บาย โบ๊ทเฮ้าส์หัวหิน (The Legend by Boathouse Hua Hin) ให้มีขนาดเล็กลง เริ่มต้น 46-130 ตร.ม. และทำราคาขายเริ่มต้นที่ 2.99 ล้านบาท จากเดิมห้องชุดของโบ๊ทเฮ้าส์ จะมีขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 50-60 ตร.ม.ขึ้นไป และมีราคาขายที่สูงมาก

สำหรับห้องชุดระดับราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 3 ล้านบาท จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น และทำให้คนรุ่นใหม่จับต้องได้ง่ายขึ้น โดยโครงการดังกล่าวเป็นอาคารสูง 18 ชั้น 159 ยูนิต ส่วนเฟสก่อนหน้านี้ บ้านเดี่ยวเหลือขาย 50 แปลง ห้องชุด3 เฟสแรก เหลือ 50-60 ยูนิต

ด้านแผนการลงทุนหลังจากนี้ ต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้ง โดยขณะนี้เหลือที่ดินอีกจำนวน 6 ไร่ซึ่งจะเป็นเฟสสุดท้ายของโครงการในเบื้องต้นมีแผนจะพัฒนาคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ 2 อาคาร จำนวนกว่า 200 ยูนิตมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ได้เริ่มพัฒนาโบ๊ทเฮ้าส์มาแล้ว 6 ปี คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 ปี จะปิดการขายโครงการนี้ได้

นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ ประเทศไทยกล่าวว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในหัวหิน ชะอำปี 2554 มีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่มากถึง 6,889 ยูนิต จาก5 โครงการ โดยโครงการ เดอะ เอนเนอร์จี้ เพียงโครงการเดียวก็มีอุปทานมากถึง 6,000 ยูนิต

สำหรับตัวเลขการเปิดโครงการใหม่ดังกล่าว ซึ่งถือว่าสูงมากเพราะหากย้อนหลังไป 10 ปี ตั้งแต่ปี 2546 – 2553 พบว่ามีอุปทานเกิดใหม่ในหัวหินชะอำ รวมกันเพียง 6,504 ยูนิตเท่านั้น ซึ่ง อุปทานที่เพิ่มขึ้นในปี 2554 ส่วนใหญ่เน้นไปที่คอนโดฯขนาด 1 ห้องนอน ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท แตกต่างจากตลาดคอนโดฯ ที่เปิดขายในอดีต