จังหวะช้อนซื้อหุ้น-ทองคำ

หุ้นทองดิ่งแรง กูรูแนะช้อนต่ำกว่า 1,700 เหรียญสหรัฐถือลงทุนยาว

นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า ราคาทองคำแถว 1,700 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ น่าซื้อลงทุน เพราะเป็นระดับที่ต่ำมากและขอแนะนำให้ถือลงทุนระยะยาว เพราะคาดว่าน่าจะเห็นแถว 1,850 เหรียญสหรัฐ

“ราคาทองคำจะผันผวนตามกระแสข่าวที่เข้ามาในแต่ละช่วง ก่อนหน้านี้ ตลาดกังวลว่าสหรัฐจะไม่มีคิวอี 3 ก็ทิ้งทองและสินทรัพย์เสี่ยงอื่นไปถือเงินเหรียญสหรัฐ แต่ผมเชื่อว่าน่าจะมีคิวอี 3 แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะดีขึ้นแต่เป็นแค่ระยะสั้น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการออกมาดูแลเพิ่มเติม” นายธนรัชต์ กล่าว

สำหรับราคาทองคำที่ปรับตัวลงแรงและเร็วในช่วงนี้ยังมีนักลงทุนแห่เข้าซื้อทองออนไลน์มากถึง 3 เท่า เทียบกับภาวะปกติวันละ 1 หมื่นบาท แต่ไม่ควรซื้อๆ ขายๆ ช่วงสั้นๆ เพราะความผันผวนจะเป็นความเสี่ยงต่อการเก็งกำไร

นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนลูกค้าบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นระยะสั้นมีโอกาสอ่อนตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งตลาดยังไม่มีสัญญาณของขาลง

นายสุกิจ กล่าวว่า ดัชนีดาวโจนส์คืนวันที่ 6 มี.ค. ปรับตัวลง 203 จุด มีลักษณะคล้ายตลาดหุ้นไทย ที่อิ่มตัวและรอข่าวเชิงบวกเข้ามา ประกอบกับนักลงทุนรอวันที่ 9 มี.ค. การประกาศตัวเลขจ้างงานของสหรัฐ และการสวอปหนี้ระหว่างรัฐบาลกรีซกับเจ้าหนี้เอกชน

ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันที่ 8 มี.ค. มีโอกาสอ่อนตัวลงได้เป็นการขายทำกำไรจากราคาหุ้นที่ขึ้นมามีกำไรพอสมควรแล้ว และการอ่อนตัวเป็นจังหวะเข้าซื้อ

“ดัชนีดาวโจนส์ที่ร่วงแรง 200 จุด ไม่ได้ส่งผลให้ภาพรวมตลาดหุ้นเอเชียแย่มาก แต่ละตลาดปรับตัวลงเล็กน้อยเท่านั้น และคิดว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะอ่อนตัวได้” นายสุกิจ กล่าว

นายสุกิจ แนะนำหุ้นพลังงานซึ่งเป็นช่วงการปรับฐานของราคา เช่น หุ้นไทยออยล์ (TOP) หรือพีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) และแนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาสแรก ปี 2555 คาดออกมาดีตามราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวขึ้น ส่วนกลุ่มสื่อสาร ระยะสั้นราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นสวนตลาด เช่น หุ้นดีแทค (DTEC) และหุ้นชิน คอร์ปอเรชั่น (INTUCH) รวมทั้งหุ้นอสังหาริมทรัพย์บางตัว

ด้านสัญญาทองคำที่ตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. เมื่อคืนวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ร่วงหนัก 31.8 เหรียญสหรัฐ หรือ 1.9% ปิด 1,672.10 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และดัชนีดาวโจนส์ตกหนัก 203 จุด หรือ 1.57% ปิดที่ 12,759.20 จุด

สำหรับสาเหตุจากความกังวลเจ้าหนี้บางรายของประเทศกรีซ อาจคัดค้านข้อตกลงการสวอปหนี้ระหว่างรัฐบาลกรีซและเจ้าหนี้ภาคเอกชน จนทำให้กรีซผิดนัดการชำระหนี้ รวมทั้งผลจากรัฐบาลจีนลดเป้าการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้เหลือ 7.5% จากเดิม 8% ซึ่งเป็นการปรับลดเป็นครั้งแรกหลังจากคงเป้า 8% ติดต่อกัน 7 ปี สร้างความกังวลในการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก