posttoday

ดีทแฮล์มรื้อระบบโลจิสติกส์

30 มกราคม 2555

วางแผนตั้งรับหวั่นอุทกภัยซ้ำอีกหาที่ตั้งคลังสินค้าโรงงานใหม่

วางแผนตั้งรับหวั่นอุทกภัยซ้ำอีกหาที่ตั้งคลังสินค้าโรงงานใหม่

“ดีเคเอสเอช” ยกเครื่องใหญ่ระบบโลจิสติกส์ ตั้งรับภัยธรรมชาติ หลังจากปีก่อนเจอน้ำท่วม 2 โรงงาน 1 คลังสินค้าจม

นายสมบุญ ประสิทธิ์จูตระกูล ประธานอำนวยการบริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) หรือดีทแฮล์ม เปิดเผยว่า บริษัทได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาวางระบบโลจิสติกส์ในไทยใหม่ และได้ยื่นเสนอแผนการลงทุนให้บริษัทแม่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์พิจารณาเพื่อปรับระบบงานรองรับการขยายตัว รวมทั้งรองรับกับภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นอีกจากเมื่อปลายปีก่อนเกิดภัยน้ำท่วมใหญ่ ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างมาก

“ระบบโลจิสติกส์เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องปรับกันใหม่หมด จากเมื่อปลายปีที่แล้วไม่มีใครคาดคิดว่าน้ำจะท่วมหนัก ถือเป็นบทเรียนที่ดีในการกลับมาคิดกันใหม่ ทั้งสถานที่ตั้งคลังสินค้า โรงงาน ซึ่งต้องวางแผนหาสถานที่ตั้งคลังสินค้าและโรงงานสำรอง รวมทั้งพิจารณาทำเลใหม่ๆ และวางระบบการขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายสมบุญ กล่าว

สำหรับบริษัท ดีเคเอสเอชฯ ในปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยโรงงาน 2 แห่งผลิตยาและกางเกงยีนส์ลีวายส์ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอินถูกน้ำท่วมเสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุง คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนหน้าและมีอีก 1 โรงงานที่ผลิตกางเกงยีนส์ลีวายส์ ถูกน้ำท่วมอยู่ระหว่างการปรับปรุงโรงงาน

ส่วนคลังสินค้าขนาดใหญ่ ขณะนี้ปรับปรุงเสร็จและเปิดใช้งานแล้ว โดยแนวคิดเบื้องต้นนั้นต้องขยายคลังสินค้าและโรงงานในทำเลอื่นเพื่อกระจายความเสี่ยง ไม่กระจุกอยู่ที่เดียวกัน ซึ่งเดิมบริษัทมีคลังสินค้ากว่า 10 แห่ง เช่น ที่บางนา วังน้อย บางปะอิน เชียงใหม่ ขอนแก่น แต่ได้ยกเลิกไป

คลังสินค้าใหม่ที่บางนาคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือน ก.พ. มี 2 คลัง พื้นที่ขนาด 1 หมื่น ตร.ม. กับ 1.6 ตร.ม. ส่วนภาคอีสานนั้น เดิมเคยมีที่ขอนแก่นแต่ยกเลิกไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บริษัทจะขยายพื้นที่คลังสินค้าเดิมที่วังน้อยกับบางปะอิน โดยใช้งบลงทุน 600-700 ล้านบาท คงต้องชะลอออกไปก่อน เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม

นายสมบุญ กล่าวว่า ภาวะตลาดและเศรษฐกิจโดยรวมคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวและดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ขณะที่ช่วงไตรมาสแรกยังคงเป็นช่วงรอยต่อของผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ผู้บริโภคยังคงต้องใช้เงินในการซ่อมแซมและปรับปรุงบ้านเรือน อาคาร หลังจากถูกน้ำท่วมเสียหายหนัก

ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตเป็นเลขสองหลักเท่ากับปีที่แล้ว แต่ยอมรับว่าปีที่แล้วรายได้เติบโตต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อยเพราะผลกระทบจากน้ำท่วม แม้ว่าช่วง 9 เดือนแรกจะทำรายได้เติบโตตามเป้าหมายแล้วก็ตาม

“ไตรมาสสุดท้ายที่น้ำท่วมทุกอย่างก็สะดุด แต่ยังโชคดีที่เรายังขนสินค้าขึ้นที่สูงได้ไม่กระทบมากนัก แต่เสียโอกาสในการขายมากกว่า ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีสินค้าใหม่ๆ เข้ามาจำหน่าย จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ รวมทั้งจะมีการขยายช่องทางการจำหน่ายใหม่ๆ ด้วย” นายสมบุญ กล่าว  

 

ข่าวล่าสุด

ป.ป.ส. ผนึก DEA สหรัฐฯ เตรียมจัดประชุม Regional IDEC 2026 ที่เชียงราย