พอนด์สปรับโฉมใหม่ทั่วโลก

พอนด์ส ปรับโฉมใหม่ทั่วโลกรอบ4ปี พร้อมปรับราคารับสงครามตลาดความงามแข่งดุมุ่งสื่อสารเถึงกลุ่มเป้าหมาย 

นางวรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหารด้านการตลาดและผลิตภัณฑ์ความงาม กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่าบริษัทดำเนินการปรับโฉมใหม่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวภายใต้แบรนด์ ‘พอนด์ส’ พร้อมกันทั่วโลกในรอบ 4ปี โดยไทยเป็น1ใน5ประเทศในเอเชียที่ดำเนินการเปิดตัวกิจกรรมในลำดับต้นๆ ทั้งการพลิกโฉมภาพลักษณ์ใหม่ที่สดใส และ ปรับสูตรใหม่ผลิตภัณฑ์แบรนด์ดังกล่าว เพื่อสื่อสารไปยังลุ่มเป้าหมายหลักเดิมตามแต่ละช่วงอายุของสินค้า คือ กลุ่มผู้หญิงอายุระหว่าง 18-25ปีที่ต้องการผิวสว่าง กระจ่างใส และกลุ่มผู้หญิงอายุ 25-35 ปีที่ต้องการ ดูแลด้านริ้วรอย เป็นต้น หลังจากแบรนด์ดังกล่าวอยู่ในตลาดไทย50ปีและตลาดโลก100 ปี

พร้อมกันนี้ ยังได้ปรับบรรจุภัณฑ์(แพคเกจจิง)ใหม่ที่เป็นระดับบน(พรีเมียม)มากขึ้นและแตกต่าง รวมถึงการจัดวางชั้นผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ดูทันสมัยขึ้น พร้อมนำโปรแกรมเทคโนโลยีระดับสูงมาช่วยตรวจวิเคราะห์สภาพผิวของลูกค้าผ่านพนักงานขาย ที่จุดขายพอนด์ส ในช่องทางซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป เพื่อให้ลูกค้ามีประสบการณ์ร่วมกับเทคโนโลยีใหม่อย่างใกล้ชิด ตามแนวโน้มเดียวกับตลาดความงามและดูแลผิวทั่วโลก ที่แข่งขันรุนแรงในตลาดทุกด้าน โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีมาร่วมสื่อสารผลิตภัณฑ์กับกลุ่มเป้าหมาย พร้อมมีการปรับราคาสินค้าใหม่ขึ้นเล็กน้อย

ทั้งนี้ บริษัทยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ พอนด์ส ฟลอเลส ไวท์ และพอนด์ส เอจ มิราเคิล ใหม่ โดยวางแผนกิจกรรมสนับสนุนการเปิดตัวครบทุกด้าน พร้อมใช้ดารานักแสดง ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ เป็นตัวแทนสินค้า(พรีเซ็นเตอร์) พอนด์ส ฟลอเลส ไวท์ต่อเนื่องเป็นปีที่2 และ บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ ตัวแทนของ พอนด์ส เอจ มิราเคิล ซึ่งเคยเป็นพรีเซ็นเตอร์พอนด์เมื่อ 10ปีก่อน หลังจากสำรวจความต้องการเชิงลึกของผู้บริโภคผู้หญิงในวัย 20 ปีที่ต้องการความขาว และวัย 30ปี ที่อยากดูเด็กกว่าอายุจริง

“ปัจจุบันพบว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าของผู้หญิงไทย เฉลี่ยอยู่ที่ 4 ขั้นตอน หรือคิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายเฉลี่ย700 บาทต่อคนต่อปีของประชากรหญิงในไทย  โดยตลาดความงามในไทยถือว่ามีความเคลื่อนไหว(ไดนามิค)ในภูมิภาคเอเชียสูง ซึ่งรองมาจากตลาดเกาหลี ที่มีการดูแลผิวหน้าราว 7 ขั้นตอน และญี่ปุ่นอยู่ที่ 9ขั้นตอน” นางวิภาวรรณ กล่าว 

สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและทำความสะอาดผิวหน้ามีมูลค่าราว 1.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มทำความสะอาดผิวหน้า(คลีนเซอร์) ราว5,000 ล้านบาท ละกลุ่มบำรุงผิวหน้าประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งยังมีอัตราการเติบโตดีอยู่ที่ 5-7% ตามแนวโน้มเดียวกับตลาดความงามทั่วโลก โดยแบรนด์พอนด์ส  ครองส่วนแบ่งตลาดแต่ละกลุ่มสัดส่วน 15% และ17% ตามลำดับ และมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 สัดส่วน16% ของมูลค่าตลาดรวม

ขณะที่แนวโน้มการทยอยปรับราคาน้ำมันขึ้นในช่วงที่ผ่านมา บริษัทประเมินว่าไม่ส่งผลกระทบกับตลาดดูแลผิวมากนัก จากการปรับราคาสินค้าขึ้นตามต้นทุน ซึ่งเจ้าของสินค้าจะหันไปดำเนินกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินงานมากกว่า