นักลงทุนญี่ปุ่นซื้อที่ดินสวนอุตสาหกรรม304

นักลงทุนญี่ปุ่นเซ็นสัญญาซื้อที่ดินสวนอุตสาหกรรม 304 มูลค่า 5,000 ล้านบาท คาดพื้นที่ภาคตะวันออกขายดี

นายวัชเรนทร์ นิสากรเสน ประธานกรรมการบริษัท 304 อินดัสเตรียล พาร์ค ผู้พัฒนาสวนอุตสาหกรรม 304 เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักลงทุนญี่ปุ่นตัดสินใจเข้ามาลงทุนในเมืองไทย ได้เลือกสวนฯ 304 จังหวัดปราจีนบุรี เป็นที่ตั้งโรงงาน และมีการลงนามสัญญาซื้อขายที่ดินจำนวน 8 ราย รวมพื้นที่ 285 ไร่ มูลค่าการลงทุนรวม 5,000 ล้านบาท คาดว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงาน 1 หมื่นคน โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนในอุตสาหกรรมโลหะและเครื่องจักรกล ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายยอดขายปีนี้ไว้ที่ 1,800 ไร่ มูลค่า 3,600 ล้านบาท จากเดิมที่มียอดขายอยู่ 500 ไร่ต่อปี เนื่องจากเชื่อว่าหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมจะมีนักลงทุนย้ายฐานการผลิตมาอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกมากขึ้น โดยปัจจุบันสวนฯ 304 มีพื้นที่ทั้งหมด 1.7 หมื่นไร่ ขายได้แล้วจำนวน 5,774 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมชิ้นส่วน 30% โลหะและเครื่องจักร 25% และอิแล็กทรอนิกส์ 16% เป็นนักลงทุนญี่ปุ่น 47% ไต้หวัน จีน ฮ่องกงรวมกัน 31%

“แม้ไทยจะเจอปัญหาน้ำท่วม แต่พบว่ายังมีหลายบริษัทที่ยังมีการขยายการลงทุนเพิ่มเติม และมีทั้งนักลงทุนรายเก่าและใหม่เข้ามาซื้อที่ดินเพิ่ม โดยพื้นที่ของนิคมฯ 304 ได้รับความเชื่อมั่น เพราะเป็นจุดที่ปลอดภัยจากเส้นทางน้ำ และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 20 เมตร” นายวัชเรนทร์ กล่าว

นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ขณะนี้มีนักลงทุนหลายรายที่ต้องการจะย้ายจากพื้นที่น้ำท่วม รวมถึงนักลงทุนรายใหม่ๆ สนใจจะมาลงทุนในภาคตะวันออกมากขึ้น ซึ่งแนวโน้มการลงทุนในภาคตะวันออกน่าจะมีมากขึ้นหลังจากนี้ แต่ตอนนี้ราคาที่ดินในภาคตะวันออกค่อนข้างแพงกว่าพื้นที่อื่น โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2-3 ล้านบาทต่อไร่ และพื้นที่นอกเขตนิคมอุตสาหกรรมก็ขยับราคาขึ้นตามไปด้วย หลังจากที่เกิดปัญหาน้ำท่วมในปีที่แล้ว

ภาคตะวันออกเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น ปิโตรเคมี ยานยนต์ ชิ้นส่วน เหล็กขั้นปลาย ทำให้เป็นที่น่าสนใจจะเข้าไปลงทุน แต่ปัจจุบันก็มีพื้นที่การลงทุนจำกัดเช่นกัน รวมทั้งยังมีพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ที่มีแนวโน้มจะมีการลงทุนนเพิ่มขึ้น โดยหลายนิคมฯ ได้เริ่มขยายการลงทุนออกไปแล้ว

นายเคนจิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการบริษัทสยามทากะ พรีซีชั่น ผู้ผลิตชิ้นส่วนเพื่อผลิตเบรก กล่าวว่า บริษัทวางแผนมาเช่าโรงงานอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ และจะเริ่มผลิตได้ในเดือนต.ค.2554 ลงทุนไปแล้ว 36 ล้านบาท แต่มาเจอปัญหาน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด จึงได้ตัดสินใจซื้อที่ดิน 11 ไร่ ที่สวนฯ 304 จังหวัดปราจีณบุรี สร้างโรงงานของตัวเอง มูลค่าการลงทุน 700-800 ล้านบาท เพื่อผลิตสินค้าส่งให้ลูกค้าในเมืองไทย จากเดิมที่ใช้การนำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งการมาตั้งโรงงานผลิตจะช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งได้ โดยคาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ในเดือนต.ค. 2555