เทคโนโลยีบาร์โค้ด สร้ามมูลค่าตลาดพันล้าน
พอพูดถึงเทคโนโลยีบาร์โค้ด คงจะนึกกันว่าเป็นสัญลักษณ์แท่งที่ติดอยู่ข้างสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ
พอพูดถึงเทคโนโลยีบาร์โค้ด คงจะนึกกันว่าเป็นสัญลักษณ์แท่งที่ติดอยู่ข้างสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ
โดย...พรหมเมศร์ ศิริสุขวัฒนานนท์
พอพูดถึงเทคโนโลยีบาร์โค้ด คงจะนึกกันว่าเป็นสัญลักษณ์แท่งที่ติดอยู่ข้างสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำให้สามารถซื้อขายสินค้ากันได้อย่างสะดวกตามร้านค้าหรือศูนย์การค้าทั่วไป แต่ต้องยอมรับว่า การใช้งานเทคโนโลยีนี้ในประเทศไทยยังอยู่ระหว่างการผลักดันให้มีการใช้อย่างเป็นประโยชน์มากขึ้น โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้า ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้า เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม และช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ เพราะบาร์โค้ดสามารถระบุถึงแหล่งที่มาของสินค้าที่ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้ ควบคุมระบบจำหน่ายได้ จึงสรุปได้ว่า บาร์โค้ดคือศูนย์รวมข้อมูลที่เป็นระบบมาตรฐานสากลที่ทั่วโลกให้การยอมรับทั้งในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม
ปัจจุบันทั่วโลกมีการใช้บาร์โค้ดในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน ประเทศไทยเองก็ใช้ในการให้ข้อมูลจัดเก็บสินค้า ขนส่ง และจัดจำหน่าย มีสถาบันรหัสสากล หรือจีเอส 1 ไทยแลนด์ ในสังกัดสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ควบคุมดูแลมาตรฐานและสนับสนุนให้มีการนำไปใช้ เป็นการ สร้างความเชื่อมั่นต่อสินค้าที่ส่งออกจากประเทศไทย ผู้บริโภคทั่วโลกก็จะสามารถรู้รายละเอียดที่มาของสินค้า นั่นหมายถึงโอกาสที่จะได้รับความเชื่อมั่นสร้างมูลค่าเพิ่มจากการส่งออกสินค้าได้มหาศาล
สถาบันรหัสสากลได้มีการพัฒนาบาร์โค้ดให้เป็นสัญลักษณ์ทางธุรกิจ ไม่ใช่เพียงแท่งรหัสสินค้าแบบเดิมๆ เป็นการใช้ความคิดสร้างสรรค์บนบรรจุภัณฑ์สินค้า ถือเป็นการสร้างเอกลักษณ์ตลาดสินค้าของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดสากล จึงมีการประกวดออกแบบบาร์โค้ดบนบรรจุภัณฑ์ตามแนวคิดประเทศไทย แหล่งอาหารที่สำคัญของโลก ครัวของโลก ซึ่งกลุ่มธุรกิจอาหารสามารถทำรายได้เข้าประเทศปีละหลายพันล้านบาท การสร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่าง จะทำให้เกิดความจดจำและความต้องการในกลุ่มสินค้าอาหารของประเทศไทยมากขึ้น เป็นการเสริมศักยภาพในการแข่งขัน
มังกร ธนสารศิลป์ ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันรหัสสากล กล่าวว่า สถาบันรหัสสากลได้เดินหน้าผลักดันให้เกิดบุคลากรไทยที่มีศักยภาพและคุณภาพด้านการออกแบบเทคโนโลยีบาร์โค้ด เพื่อเตรียมต่อยอดพัฒนาในเชิงธุรกิจในอนาคต นอกจากจะเป็นเรื่องของการระบุในการผลิตแล้ว ยังเป็นการเสริมศักยภาพด้านโลจิสติกส์ของประเทศ และคาดว่าจะสามารถช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศได้อย่างแน่นอน
“บาร์โค้ดคือภาษากลางทางธุรกิจที่ใช้ทั่วโลก มีการนำไปประยุกต์ใช้อย่างแพร่ หลาย การพัฒนาบุคลากรจึงเป็นสิ่งสำคัญ เป็นโอกาสครั้งสำคัญในส่วนของภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ ที่จะมีส่วนในพัฒนาการใช้บาร์โค้ดระบบมาตรฐานสากลกับกลุ่มธุรกิจต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสวยงาม พร้อมทั้งภาคการศึกษาที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของสัญลักษณ์บาร์โค้ด ในหลายมหาวิทยาลัยได้กำหนดเป็นวิชาการเรียนการสอนด้วย” มังกร กล่าว
การสร้างสรรค์เทคโนโลยีบาร์โค้ดไม่เคยหยุดนิ่ง มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เหมาะกับตลาด สินค้าที่จะนำไปใช้ ตลอดจนรองรับความต้องการของภาคธุรกิจที่ต้องการเทคโนโลยีบาร์โค้ดเข้าไปมีบทบาทในบรรจุภัณฑ์ของตนเอง ซึ่งการบริโภคสินค้าแต่ละชนิดนั้น นอกจากคุณภาพของผลิตภัณฑ์จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผู้บริโภคใช้ในการเลือกซื้อสินค้าแล้ว รูปแบบบรรจุภัณฑ์ก็ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ผู้บริโภคคำนึงถึงไม่แพ้กัน ซึ่งบาร์โค้ดก็เป็นส่วนสำคัญที่อยู่บนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ดังนั้นหากบาร์โค้ดเหล่านี้มีการออกแบบให้สวยงาม จะทำให้บาร์โค้ดเหล่านี้ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบรรจุภัณฑ์
พิชญา วัชโรทัย ผู้อำนวยการสถาบันรหัสสากล กล่าวว่า โครงการประกวดออกแบบบาร์โค้ดบนบรรจุภัณฑ์ปี 2554 ถือเป็นการจุดไฟทางความคิดให้กับกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่และภาคประชาชนที่ให้ความสนใจในระบบเทคโนโลยีบาร์โค้ด เนื่องจากเทคโนโลยีบาร์โค้ดเป็นตัวแปรสำคัญในการนำไปสู่การพัฒนาภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ โดยผ่านหมายเลขประจำตัวสินค้าที่ไม่ซ้ำซ้อน สามารถบ่งชี้สินค้าได้ถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว จึงช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลสินค้ากันได้ทั้งระบบซัพพลายเชน ตั้งแต่ระดับการผลิต ไปจนถึงมือผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเทคโนโลยีบาร์โค้ดจึงเพิ่มความถูกต้องรวดเร็ว ความสะดวก และเสริมสร้างความปลอดภัยจากการใช้สินค้าและบริการให้แก่ผู้บริโภค
ทั้งนี้ ธุรกิจอาหารในประเทศเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้ปีละหลายพันล้านบาท ยังไม่รวมถึงธุรกิจและอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ประเทศไทยสามารถผลิตและ ส่งออกได้ด้วยตัวเอง สามารถทำรายได้เข้าประเทศได้อย่างแท้จริง ซึ่งหากมีการนำเทคโนโลยีบาร์โค้ดมาใช้งานแล้ว จะช่วยในเรื่องการส่งออกไปขายในประเทศกลุ่มพัฒนาแล้วจำนวนมากที่มีการกำหนดมาตรฐานสินค้านำเข้าที่ต้องตรวจสอบที่มาได้อย่างชัดเจน นั่นแสดงว่าจะเป็นรายได้ที่เข้าประเทศมูลค่ามหาศาลหลายพันล้านบาทและอาจมากถึงหมื่นล้านบาทในอนาคต
ดังนั้น การออกแบบบาร์โค้ดนอกจากจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าแล้ว สัญลักษณ์ชิ้นเล็กๆ เทคโนโลยีที่ไม่ควรมองข้ามจะสามารถเพิ่มมูลค่าตลาดได้อย่างมหาศาล เพียงใส่ใจในสินค้า มองเห็นถึงศักยภาพของบุคลากรไทย พร้อมสนับสนุน ส่งเสริมในเทคโนโลยีบาร์โค้ดให้เป็นภาษากลางทางธุรกิจที่ใช้กันทั่วโลกในระดับสากลบนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ของไทย เชื่อว่าจะเป็นส่วนช่วยยกระดับมาตรฐานสินค้าให้เป็นที่ยอมรับ สร้างศักยภาพเชิงการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ พร้อมเป็นส่วนในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจในประเทศให้มีการเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ


